สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม มีการเผยแพร่รายงานการสอบสวนกรณีการตัดสินใจนำอังกฤษเข้าสู่สงครามอิรักเมื่อปี 2546 ของนายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่ใช้เวลาในการสอบสวนถึง 7 ปี โดยคณะกรรมการที่นำโดย เซอร์ จอห์น ชิลคอต มีเนื้อหาแสดงให้เห็นว่า แบลร์ ตัดสินใจผิดพลาดในการนำประเทศอังกฤษเข้าสู่สงครามครั้งนั้น โดยระบุว่าอังกฤษเข้าสู่สงครามโดยที่ยังมีทางเลือกที่จะหาทางออกโดยสันติก่อน และการใช้กำลังทหารไม่ใช่ที่พึ่งสุดในกรณีนี้ และการบุกอิรักในปี 2546 อยู่บนพื้นฐานของข่าวกรองและการประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาดบกพร่องซึ่งไม่มีการตรวจสอบข้อมูลก่อน ส่วนภัยคุกคามที่เกิดจากอาวุธที่มีสมรรถนะทำลายล้างสูง ที่ถูกนำมากล่าวอ้างว่ามีอยู่แน่นอนนั้น “ไม่ชอบธรรม” ทั้งนี้ข้อสรุปดังกล่าวทำให้ครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตระหว่างสงครามอิรัก สามารถฟ้องร้องเอาผิดต่อโทนี่ แบลร์และรัฐบาลชุดดังกล่าวได้
ด้านนายโทนี่ แบลร์ ได้แถลงหลังการเปิดเผยรายงานดังกล่าว โดยออกมาแสดงความเศร้าและเสียใจต่อสงครามที่เกิดกับอิรัก ที่ทำให้อิรักกลายเป็นสมรภูมิรบเรื่อยมาและทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่ยังคงปกป้องการตัดสินใจเข้าร่วมทำสงครามโจมตีอิรักที่นำโดยสหรัฐเมื่อปี 2546 โดยนายแบลร์ กล่าวว่า จากการประเมินข่าวกรองในเวลานั้นกลับได้ผลออกมาที่ผิดพลาด และผลลัพธ์หลังจากสงคราม ก็ยิ่งทำให้เกิดความเป็นปฏิปักษ์มากยิ่งขึ้น และทำให้เกิดการนองเลือดยืดเยื้อมากกว่าที่คิดไว้ ซึ่งสำหรับสิ่งเหล่านี้ ตนรู้สึกเศร้า เสียใจ และขอโทษ
พร้อมกันนี้ นายแบลร์ยังขอรับผิดชอบทั้งหมดในเรื่องของการตัดสินใจเข้าสู่สงครามครั้งนั้น แต่ขอแย้งข้อกล่าวหาที่ว่า การก่อการร้ายที่เกิดขึ้นปัจจุบัน มีจุดกำเนิดมาจากการบุกอิรักครั้งในครั้งนั้น นายแบลร์ยังเชื่อด้วยว่า เมื่อไม่มีซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำเผด็จการของอิรักแล้วโลกนี้ก็ดีขึ้น
ขณะที่ นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า อังกฤษจำเป็นต้องเรียนรู้จากบทเรียนเหล่านี้ และจะนำเรื่องนี้เข้าสู่สภาเพื่ออภิปรายเป็นเวลา 2 วัน ในสัปดาห์หน้า
