เว็บไซต์อาร์สเทคนิการายงานว่า เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากสไนเปอร์หรือมือปืนซุ่มยิงสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตไป 5 นาย และบาดเจ็บอีก 7 นาย รวมทั้งยังมีพลเรือนได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน ในระหว่างที่กลุ่มรณรงค์เคลื่อนไหวเพื่อสิทธิคนผิวสี “แบล็ก ไลฟ์ส แมทเทอร์” เดินขบวนประท้วงที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อกรณีที่ตำรวจฆ่าคนผิวสี 2 เหตุการณ์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจดัลลัสได้ตัดสินใจใช้หุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด ที่อย่างไรก็ตามคราวนี้เป็นการใช้ในการปลดชนวนวัตถุระเบิดเพื่อสังหารมือปืน
ถึงตอนนี้ยังไม่รู้แน่ชัดว่าหุ่นยนต์ที่ใช้เป็นชนิดไหนและวัตถุระเบิดที่ใช้เป็นรูปแบบใด แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีการใช้หุ่นยนต์เพื่อนำระเบิดเข้าไปสังหารมือปืนโดยหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐ และการเสียชีวิตของนายมิกาห์ ซาเวียร์ จอห์นสัน มือปืนวัย 25 ปีรายนี้ เป็นการจุดประเด็นให้เกิดคำถามถึงเรื่อง ขอบเขตที่เหมาะสมในการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบเดียวกับโดรน นอกพื้นที่สงครามที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ
ด้านเอเอฟพีรายงานว่า เดวิด บราวน์ ผู้บัญชาการตำรวจดัลลัสเปิดเผยว่า “เจ้าหน้าที่มองไม่เห็นหนทางอื่นนอกจากการใช้หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิดในการปลดชนวนสังหารมือปืนเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นเพิ่มอีกหลังจากที่มือปืนสังหารตำรวจไปแล้ว 5 นาย”
ขณะที่ปีเตอร์ ซิงเกอร์ นักวิจัยแห่งมูลนิธินิวอเมริกาทวีตข้อความว่า “นี่เป็นการใช้หุ่นยนต์เป็นครั้งแรกในการรักษาความสงบเรียบร้อย”
เจ้าหน้าที่ตำรวจดัลลัสไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดของหุ่นยนต์ที่ใช้ แต่ข้อมูลในเว็บไซต์ของสำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินดัลลัสมีรายละเอียดของหุ่นยนต์ชนิดดังกล่าวว่า เป็นหุ่นยนต์รุ่น “นอร์ธรอป กรัมแมน แอนดรอส” ที่ออกแบบมาเพื่อหน่วยกู้ระเบิดของกองทัพ ซึ่งเว็บไซต์ของนอร์ธรอป กรัมแมน บริษัทผู้ผลิตระบุว่า “ออกแบบมาเพื่อจัดการกับภัยคุกคามหลากหลายรูปแบบ รวมถึงยานพาหนะที่ติดตั้งวัตถุระเบิดด้วย” โดยรายงานในสื่อหลายแขนงระบุว่า หุ่นยนต์รุ่นนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการโจมตีเพื่อสังหารเป้าหมายได้
