หุ้นมะกันร่วงหนักรอบ 30 ปี ‘น้ำมัน’ ดิ่งต่อเนื่อง

ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐปรับตัวร่วงลงจนทำสถิติเลวร้ายที่สุดในรอบกว่าสามทศวรรษอีกครั้ง เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยมูลค่าของหุ้นที่หายไปสูงถึงหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลงไปถึง 12% หรือเท่ากับตกไปเกือบ 30% หลังทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่เพียงไม่ถึงหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ โดยปิดตลาดด้วยมูลค่าที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2561 และถือเป็นความสูญเสียที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่แบล็คมันเดย์เมื่อปี 2530

ขณะที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ตกลง 2,997 จุด หรือปรับตัวลดลง 12.9% ซึ่งความสูญเสียที่เกิดขึ้นถือว่าหนักกว่าการปรับตัวลงของตลาดหลักทรัพย์เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงไป 10% สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ต้องมีการประกาศระงับการซื้อขายเพื่อลดความร้อนแรงผันผวนของตลาดหุ้นเป็นครั้งที่ 3 ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์

สถานการณ์ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐยิ่งเลวร้ายหนัก หลังก่อนปิดตลาดไม่กี่ชั่วโมง รัฐบาลสหรัฐออกมายอมรับว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

Advertisement

ความผันผวนของตลาดหุ้นยังลุกลามไปถึงในยุโรปด้วย โดยตลาดหลักทรัพย์หลักๆ ในยุโรปต่างพากันปรับตัวลดลงไปตามกันตั้งแต่ 4% – 6%

ด้านราคาน้ำมันก็ร่วงลงอีก 9.5% ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งแล้วปีนี้

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image