สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มีนาคม บริษัท แอมะซอนดอตคอม ประกาศว่า จะว่าจ้างคนงานสำหรับทำงานในโกดังและขนส่งในสหรัฐอเมริกาเพิ่มอีก 100,000 คน เพื่อรองรับปริมาณการสั่งซื้อของออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางกระแสความหวาดกลัวการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะที่ผู้คนในสหรัฐพากันแห่ซื้ออาหารและข้าวของเครื่องใช้กักตุน จนสินค้าเกลี้ยงชั้น เนื่องจากเกรงการถูกกักตัวหรือสินค้าขาดแคลน ร้านค้าปลีกต่างระดมสต๊อกอาหารและผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อเอาไว้ และจัดหาพนักงานประจำตามร้านค้า หรือเพื่อจัดส่งสินค้า
โดยนอกเหนือจาก แอมะซอนดอตคอม บริษัทอี-คอมเมิร์ซ รายใหญ่แล้ว ก็ยังมีบรรดาเครือข่ายซุปเปอร์มาร์เก็ตอื่นๆ ของสหรัฐ อย่างเช่น อัลเบอร์ตสันส์, โครเกอร์ และราลีย์ ต่างต้องว่าจ้างพนักงานเพิ่มเติม เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่หันมาสั่งสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยแอมะซอนพุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนงานจากแวดวงร้านอาหาร การท่องเที่ยว และธุรกิจบันเทิง ที่อยู่ในสภาพว่างงานเนื่องจากผลกระทบจากไวรัสโคโรนา
แอมะซอน ระบุไว้บนบล็อกของบริษัทว่า “เราต้องการให้คนเหล่านั้นรู้ว่า เรายินดีต้อนรับคนเหล่านี้มาอยู่ที่เดียวกับเรา จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติและผู้ว่าจ้างเดิมสามารถกลับมาจ้างงานได้เหมือนเดิม”
ทั้งนี้ แอมะซอน ระบุว่า จะจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่แรงงานใหม่เหล่านี้เป็นเงิน 17 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 540 บาท) ต่อชั่วโมง ซึ่งมากกว่าค้าแรงขั้นต่ำที่ให้อยู่ 15 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง ไปตลอดจนถึงเดือนเมษายน โดยแอมะซอนระบุด้วยว่า เงินที่จ่ายเพิ่มให้แก่แรงงานใหม่เหล่านี้ ทั้งในอเมริกาเหนือและยุโรป คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่า 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่บริษัทขนส่งรายใหญ่อย่าง ยูไนเต็ด เพอร์เซล เซอร์วิส (ยูพีเอส) ระบุว่า การขนส่งทั้งทางรถบรรทุกและทางอากาศของบริษัทยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่ารัฐบาลจะมีข้อจำกัดต่างๆมากขึ้นเกี่ยวกับกิจกรรมด้านการค้า และว่า ตอนนี้บริษัทยังมีแรงงานเพียงพอกับความต้องการของลูกค้า
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
