สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม อ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทางการฟิลิปปินส์ระบุว่า มีผู้ถูกสังหารอีก 9 รายภายในคืนเดียวในฟิลิปปินส์ จากการที่ตำรวจและกลุ่มที่สงสัยว่าจะเป็นมือปืนต่อต้านแก๊งค้ายาเริ่มยกระดับปฏิบัติการในสงครามต่อต้านอาชญากรรมที่เป็นนโยบายของนายโรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนใหม่ ซึ่งเป็นที่โต้แย้งถกเถียงเป็นอย่างสูง
นายดูแตร์เตชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์อย่างถล่มทลายเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยการให้คำมั่นสัญญาว่าจะสังหารผู้ค้ายาเสพติดและอาชญากรทั้งหมด พร้อมทั้งเรียกร้องให้ตำรวจและประชาชนให้ความร่วมมือในการช่วยกันฆ่าคนเหล่านี้ด้วย โดยมีผู้ต้องสงสัยที่ถูกฆ่าไปแล้วมากกว่า 100 รายในช่วงเวลา 7 สัปดาห์นับตั้งแต่นายดูแตร์เตชนะการเลือกตั้ง
โรเมโอ กัลโก ผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่นเปิดเผยว่า ในการบุกเข้าจู่โจมสถานที่แห่งหนึ่งในเมืองมาตาลัม จ.โกตาบาโต ห่างจากกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์มาทางตอนใต้ราว 900 กม. เมื่อช่วงเช้ามืดวันดังกล่าว ส่งผลให้มี “ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด” เสียชีวิต 8 ราย ในจำนวนนี้ 1 รายเป็นผู้หญิง โดยพบปืนสั้น 3 กระบอกและระเบิด 4 ลูกตกอยู่บริเวณศพของผู้เสียชีวิต ขณะที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยกระทำผิดกฎหมายยาเสพติดได้ 1 คน
ส่วนในกรุงมะนิลา ตำรวจเปิดเผยว่า พบศพชายที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้นอนเสียชีวิตในสภาพที่ถูกเทปพันไว้ทั่วศีรษะบนถนนแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างมืดในช่วงกลางคืน และมีป้ายทำจากกระดาษแข็งเขียนว่า “ผมเป็นผู้ค้ายา” วางไว้บนลำตัว
นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิพลเมืองซึ่งรวมถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติ 2 คนเรียกร้องให้มีการไต่สวนเรื่องปฏิบัติการของตำรวจในช่วงเดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลว่าผู้ต้องสงสัยบางรายอาจถูกเจ้าหน้าที่ฆ่าอย่างรวบรัดโดยที่ไม่มีโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์
ด้านตำรวจแย้งว่า ได้ปฏิบัติการอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายในการสังหารผู้ต้องสงสัย 103 ราย ระหว่างวันที่ 10 พฤษภาคม-7 กรกฎาคม ขณะที่หนังสือพิมพ์ฟิลิปปินส์ เดลี อินไควเรอร์ ที่มีการทำบัญชี “ผู้ถูกฆ่า” ของตนเอง ระบุว่ามีผู้ต้องสงสัยที่ตกเป็นเหยื่อของการฆ่าอย่างรวบรัดจนถึงเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมแล้ว 119 ราย รวมถึง 13 รายที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้
