คนไทยในอังกฤษโวย! รัฐบาลไร้บูรณาการ ออกประกาศสร้างความสับสน ผลกรรมตกที่ข้าราชการ-ปชช.

จากกรณีที่กรมการบินพลเรือน ออกประกาศ ประกาศกำหนดให้ผู้โดยสารทุกประเทศทั่วโลกที่จะเดินทางเข้าไทย ต้องแสดงใบรับรองแพทย์ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากคนไทยในต่างแดนที่ต้องการกลับประเทศถึงความยากลำบากในการหาใบรับรองแพทย์ในต่างประเทศ

คลิกอ่าน คนไทยในตปท.โวย กฎใหม่ กพท. ต้องมีใบรับรองสุขภาพถึงเข้าไทยได้ จะไปเอาจากไหน ในสภาพตอนนี้!!

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา นางสาวศิรดา (สงวนนามสกุล) นักศึกษาไทยในอังกฤษ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาโดยสรุปบอกเล่าถึงสถานการณ์ที่เกิดจากผู้บริหารระดับสูงของประเทศไม่ใช้อำนาจหน้าที่ในการจัดการปัญหาอย่างบูรณาการ ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายและสับสน กล่าวคือ คนไทยในพื้นที่เสี่ยงที่อยากกลับไทยต้องขอใบรับรอง แต่กลับเพิ่งมีประกาศแจ้งอย่างกระชั้นชิด สร้างความสับสน แม้กระทั่งในหมู่ข้าราชการเอง โดยสถานการณ์ในกรุงลอนดอนขณะนี้ ทางสถานทูต สนร. และนักเรียนทุนด้านแพทย์และวิทยาศาสตร์บางราย ต้องช่วยแก้ปัญหา โดยมีอาสาสมัครมาช่วยตรวจและหาอุปกรณ์กันเอง เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการหาใบรับรองแพทย์ในระยะเวลากระชั้นชิด กระทั่งต่อมา มีการอนุโลมให้ใช้ใบรับรองจากแพทย์ไทยภายใต้การดูแลของสถานทูตได้

นางสาวศิรดา ยังกล่าวถึงประเด็นปัญหาต่างๆอย่างละเอียด โดยระบุว่า ประกาศดังกล่าว ไม่ได้ผ่านการปรึกษาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตซึ่งต้องประสานงานกับประชาชนในต่างแดน ทั้งที่ยังไม่มั่นใจในขั้นตอน ในขณะที่สถานทูตบางแห่งปฏิเสธการดำเนินการ

Advertisement

“ประกาศนี้ผลักให้ประชาชนต้องเสี่ยงต่อโรคมากขึ้น เพราะต้องมารวมกันอย่างแออัดในจุดเดียว คุณหมออาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ก็เสี่ยงไปด้วย และเจ้า fit to fly certificate ไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันว่าไม่มีcovidนะ เป็นการตรวจร่างกายคร่าวๆ เช็คความดัน เช็คออกซิเจนในเลือด ถ้าไปหาprivate GP ก็เสี่ยงที่จะเจอบริการที่แพงจนเกินเหตุ หรือหากอยู่นอกลอนดอนก็หาบริการได้ยากมากๆ”

นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับอำนาจของประกาศ ซึ่งนางสาวศิรดาระบุว่า ทั้งที่ผู้มีอำนาจในการห้ามคนเข้าประเทศเพื่อประโยชน์ต่อการควบคุมโรคระบาดคือกระทรวงสาธารณสุข แต่สำนักงานการบินพลเรือนใช้อำนาจในการควบคุมการเดินทางมาทำเช่นนี้

“ตอนนี้เหมือนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะสถานทูตก็ไม่มั่นใจว่าประชาชนถูกปฏิเสธให้ขึ้นเครื่องหรือไม่หากไม่มีใบดังกล่าว เกินขอบเขตอำนาจในจุดๆนั้น ตอนนี้จึงเป็นการบริการประชาชนล้วนๆ”

Advertisement

นางสาวศิรดา เล่าด้วยว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ยังพบว่าบุคคลบางส่วนพยายามให้อภิสิทธิ์ในการขอลัดคิวการตรวจโดยอ้างผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่สถานทูตที่ยืนหยัดให้ให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่

ในตอนท้าย ยังตั้งคำถามว่า คนในชาติควรถูกปฏิเสธการเข้าประเทศตัวเองหรือไม่ โดยประเด็นนี้คือหลักการสำคัญมากที่ข้าราชการกระทรวงต่างประเทศก็ยังไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนตนนั้นรู้สึกเหนื่อยและท้อแท้อย่างมาก

“รัฐบาลและคณะรัฐมนตรีควรจะมาช่วยควบคุมดูแลไหม ทำให้ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางเดียวกัน….ตอนนี้รัฐราชการมากๆ แต่ละหน่วยงานต้องมาดำเนินงานกันเอาเอง ไล่มาตั้งแต่กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ตอนนี้ก็มากระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงคมนาคม … ยังไม่รวมหน่วยงานระดับจังหวัดทั้งหลาย เหมือนปกครองกันเองแล้ว”

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image