เมื่อวันที่ 20 มีนาคม สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ออกคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน ยกเว้นมีกิจธุระจำเป็น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยนายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า ประชาชนควรจะออกจากบ้านเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้นในช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดใหญ่ของโรค
ก่อนหน้านี้นายนิวซัมประมาณการณ์ว่าประชาชนมากกว่าครึ่งของประชากรในรัฐแคลิฟอร์เนียที่มีราว 40 ล้านคน จะติดเชื้อโควิด-19 ภายใน 2 เดือนข้างหน้า หลังจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้คร่าชีวิตคนในสหรัฐไปแล้ว 205 ราย และมีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 14,000 ราย
รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นหนึ่งในรัฐแรกๆของสหรัฐที่ดำเนินมาตรการครอบคลุมในการต่อสู้กับวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 โดยเมื่อต้นสัปดาห์นี้รัฐเนวาดาได้มีคำสั่งให้ภาคธุรกิจที่ไม่จำเป็นควรปิดทำการลงเป็นเวลา 30 วัน
ทั้งนี้ภายใต้คำสั่งนี้ของผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียจะอนุญาตให้ประชาชนออกจากบ้านได้เพื่อทำธุระจำเป็นเท่านั้น เช่น การออกไปซื้อของใช้จำเป็นหรือยารักษาโรค การนำสุนัขออกไปเดินเล่นหรือไปออกกำลังกาย แต่ไม่ควรมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ส่วนภาคธุรกิจที่ไม่จำเป็นจะต้องหยุดดำเนินงานชั่วคราว ยกเว้นร้านขายของชำ ร้านขายยา ธนาคารและปั๊มน้ำมัน ยังคงเปิดให้บริการได้ตามปกติ
