สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดแห่งอิหร่าน ได้ออกมาปฏิเสธความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา ในการต่อสู้กับ “โควิด-19” โดยอ้างว่า สหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตไวรัสร้ายดังกล่าว ในขณะที่อิหร่านยังมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้ว 1,685 ราย และติดเชื้อรวม 21,635 ราย
ข่าวระบุว่า การออกมาแสดงความเห็นของผู้นำสูงสุดขอิหร่านมีขึ้นหลังจากอิหร่านกำลังเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ ที่ห้ามอิหร่านขายน้ำมันดิบและเข้าถึงตลาดการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งในขณะที่ชาวอิหร่านกำลังวิพากษ์วิจารณ์มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว ผู้นำสูงสุดอิหร่าน เลือกที่จะหันมาพูดถึงเรื่องของ “ทฤษฎีสมคบคิด” ที่ทางการจีนกล่าวหาสหรัฐว่า เป็นผู้ผลิตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกมา จนเกิดการระบาดใหญ่ครั้งนี้
คาเมนี กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเรื่องจริงแค่ไหน แต่เมื่อมันมีอยู่จริง แล้วจะเชื่อใจได้อย่างไรว่าคนที่ทำขึ้นจะนำยารักษามาให้ จะไม่ได้นำยาที่เป็นยาแพร่กระจายเชื้อไวรัสออกไปมากกว่านี้อีก
ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ยังกล่าวต่อโดยไม่ได้แจ้งหลักฐานใดๆว่า ไวรัสถูกสร้างขึ้นเพื่ออิหร่านโดยเฉพาะ โดยใช้ข้อมูลด้านพันธุกรรมของชาวอิหร่าน ที่ได้มาจากที่ต่างๆ และว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ที่สหรัฐจะส่งมาช่วยนั้น สหรัฐอาจจะส่งไปเพื่อดูผลของยาพิษที่ผลิตขึ้นว่า มีผลต่อผู้คนอย่างไร
รายงานข่าวระบุว่า คำกล่าวของคาเมนีนั้น ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ทางการแพทย์จากที่ใดในโลก โดยเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายเจา หลี่เจี้ยน โฆษกรัฐบาลจีน ได้ทวีตข้อความระบุว่า กองทัพสหรัฐอาจจะเป็นผู้นำเชื้อไวรัสร้ายไปยังเมืองอู่ฮั่น พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะ เพื่อความโปร่งใส และอธิบายเรื่องดังกล่าวออกมา
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
