ตลาดหุ้นเอเชียดีดต่อขานรับวอลสตรีท

(Photo by Jung Yeon-je / AFP)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตลาดหุ้นทั่วเอเชียปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ขานรับการดีดกลับแรงของตลาดวอลสตรีทเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ซึ่งได้ข่าวดีจากวุฒิสภา สหรัฐ ที่ใกล้ได้ข้อยุติปรับร่างกฎหมายให้ความช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจซึ่งมูลค่ารวมเพิ่มสูงขึ้นเป็นเกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์ ผลักดันให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับเพิ่มสูงขึ้นรวดเดียว 11.37 เปอร์เซ็นต์ เป็นการเพิ่มขึ้นต่อวันสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1933 เป็นต้นมา

ดัชนีเอ็มเอสซีไอ ที่สะท้อนตลาดทั่วเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น 1.7 เปอร์เซ็นต์ ตลาดหุ้นออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 4.3 เปอร์เซ็นต์ เกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 3.5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่น ปรับขึ้นมากถึง 4.8 เปอร์เซ็นต์ หลังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากมาตรการซื้อตราสารหนี้เชิงรุกของธนาคารแห่งชาติญี่ปุ่น (บีโอเจ)

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่า ดัชนีหลักทรัพย์วอลสตรีทยังคงอยู่ห่างจากระดับก่อนที่จะเกิดการเทขายขนานใหญ่เมื่อสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย เอสแอนด์พี 500 ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อราว 1 เดือนเศษที่ผ่านมาถึง 28 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ดัชนีวอลสตรีทฟิวเจอร์ ยังลดลง 1.1 เปอร์เซ็นต์เมื่อเริ่มการซื้อขาย

ราคาทองคำยังคงขยับเพิ่มต่อเนื่องอีก 0.3 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 1,614.5 ดอลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแพงขึ้นมาแล้วเกือบ 5 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 สาเหตุหลักมาจากความกังวลว่าอาจมีการล็อคดาวน์ในแอฟริกาใต้ ที่เป็นแหล่งผลิตใหญ่อาจทำให้ทองคำในตลาดขาดแคลน

Advertisement

น้ำมันดิบปรับราคาขึ้นต่อเนื่อง น้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอ เพิ่มขึ้นแตะระดับ 25.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 24.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 81เซนต์หรือ 3.4% ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 3.4 เปอร์เซนต์ เมื่อ 11.12 น.ตามเวลาในไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image