เผยโบอิ้งเล็งฟื้นผลิต 737 แมกซ์พ.ค.นี้ หวั่นพิษโควิด-19 กระทบแผน

(FILES) (Photo by Jason Redmond / AFP)

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัท โบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา มีแผนที่จะเริ่มกลับมาผลิตเครื่องบินรุ่น 737 แมกซ์ ในราวเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากได้หยุดการผลิตไป ผลจากการถูกผู้ควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐสั่งระงับไม่ให้เครื่องบินรุ่นนี้ขึ้นบิน เนื่องจากความวิตกด้านความปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุเครื่องบินโดยสาร 737 แมกซ์ประสบอุบัติเหตุตกถึง 2 ครั้งซ้อนในชั่วเวลาทิ้งห่างกันไม่นาน

แผนการข้างต้นได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวในแวดวงอุตสาหกรรมอากาศยานเมื่อ 24 มีนาคม ซึ่งยังขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อแผนการนี้ของโบอิ้งแค่ไหนและยังเป็นที่คาดหมายว่าผู้ควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐจะเปิดทางให้เครื่อง 737 แมกซ์กลับมาทำการบินได้ก็ในราวกลางปีนี้

แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยว่า โบอิ้งได้ร้องขอให้ซัพพลายเออร์บางรายเตรียมตัวให้พร้อมที่จะทำการขนส่งชิ้นส่วนเครื่องบิน 737 แมกซ์ในเดือนเมษายนนี้แล้ว แต่แหล่งข่าวอีกรายบอกว่าโบอิ้งมีแผนเริ่มกลับมาผลิตเครื่อง 737 แมกซ์ในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนแหล่งข่าวรายที่ 3 บอกว่า เหตุระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กำลังกระทบต่อแผนการนี้ของโบอิ้ง จากเดิมที่หวังว่าจะเริ่มกลับมาผลิตได้ในเดือนเมษายน แต่ต้องเลื่อนไปเป็นเดือนพฤษภาคมแทน

เกร็ก สมิธ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงินของโบอิ้ง ให้สัมภาษณ์หลังถูกถามถึงแผนการกลับมาผลิตในเดือนพฤษภาคมว่า จะเป็นการดำเนินการอย่างช้าๆ ตามระเบียบวิธีและอย่างเป็นระบบในการอุ่นเครื่องการผลิต แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการให้การสนับสนุนฝูงเครื่องบินของลูกค้าโบอิ้งเป็นอันดับแรก โดยการผลิตจะควบคู่ไปกับการจัดการปัญหาคั่งค้างที่มีอยู่กับเครื่องรุ่นแมกซ์

Advertisement

ทั้งนี้โบอิ้งได้หยุดผลิตเครื่อง 737 แมกซ์ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะโบอิ้งกำลังต่อสู้เพื่อให้เครื่อง 737 แมกซ์ได้รับอนุญาตขึ้นบินรวมถึงจัดการปัญหากับเครื่องบินรุ่นนี้อีก 400 ลำที่ยังไม่ได้ทำการจัดส่ง แต่สถานกาณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ได้กระทบอย่างหนักต่อความต้องการเดินทางทั่วโลกและยังทำให้โบอิ้งสูญเสียมูลค่าในตลาดไปจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ยิ่งเป็นการซ้ำเติมวิกฤตชะตากรรมของโบอิ้งที่เผชิญมาตลอดหนึ่งปีด้วยหลังเกิดเหตุเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 แมกซ์ ตกในประเทศเอธิโอเปียและอินโดนีเซีย ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมกัน 346 ราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image