เมื่อวันที่ 25 มีนาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า มีผู้โดยสารจำนวนหลายพันคนติดค้างอยู่บนเรือสำราญ 3 ลำ ที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ของออสเตรเลีย หลังจากเจ้าหน้าที่ทางการออสเตรเลียปฏิเสธไม่ให้ผู้โดยสารบนเรือสำราญทั้ง 3 ลำขึ้นฝั่ง เพื่อไม่ต้องการหลีกเลี่ยงเหตุซ้ำรอยที่ออสเตรเลียปล่อยให้เรือสำราญลำหนึ่งที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาอยู่ด้วยขึ้นฝั่งมา
นายมาร์ค แมคโกแวน มุขมนตรีรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย กล่าวกับสื่อมวลชนว่าเราจะไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารหรือลูกเรือเที่ยวเตร่ไปบนท้องถนนในรัฐของเราอีก
ทั้งนี้เรือสำราญแมกนิฟิกาและเรือสำราญอาร์ตาเนีย ได้ทอดสมออยู่นอกชายฝั่งเมืองท่าฟรีแมนเทิล รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ส่วนเรือวาสโกเดอกามา กำลังมุ่งหน้ามา โดยเรือแมกนิฟิกาที่มีผู้โดยสารอยู่บนเรือราว 1,700 คน ได้ล่องเรือออกไปจากเมืองฟรีแมนเทิลเมื่อวันอังคาร(24 มี.ค.) หลังจากได้รับอนุญาตให้เข้ามาเติมน้ำมันเชื้อเพลิงได้ และถูกสั่งให้เดินทางกลับไป
ขณะที่มีรายงานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 กับผู้โดยสารกว่า 800 คน บนเรืออาร์ตาเนีย หลังจากเรือสำราญลำนี้รายงานมีผู้โดยสารที่มีอาการป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ 25 ราย
ข่าวแจ้งว่า ชาวออสเตรเลียราว 800 คนที่อยู่บนเรือสำราญวาสโกเดอกามาที่จะเดินทางมาถึงออสเตรเลียในวันศุกร์(27 มี.ค.)นี้ จะถูกแยกกักตัวไว้บนเกาะรอทเนสต์ของออสเตรเลีย ส่วนผู้โดยสารอื่นจะต้องรออยู่บนเรือเพื่อเตรียมการเดินทางต่อไป ซึ่งนายแมคโกแวนกล่าวว่า ผู้โดยสารสัญชาติอื่นเหล่านี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นฝั่งไม่ว่าจะเมื่อใด เว้นแต่เป็นการเดินทางภายใต้การควบคุมเพื่อนำไปส่งยังสนามบินโดยตรงเท่านั้นหรือมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์เพื่อรักษาชีวิต
ทั้งนี้กลุ่มผู้ติดเชื้อโควิดกลุ่มใหญ่ในออสเตรเลียล่าสุดมาจากเรือสำราญรูบี้ปรินเซสที่ออสเตรเลียยอมให้ขึ้นฝั่งที่นครซิดนีย์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ติดเชื้อบนเรืออย่างน้อย 135 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย
จนถึงขณะนี้ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศใกล้แตะ 2,400 คนแล้วและมีผู้เสียชีวิต 8 ราย นับจากพบการระบาด
