สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า จากทีมีข่าวว่า ครอบครัวของนายบ็อบ เลวินสัน อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา (เอฟบีไอ) ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อปี 2550 แจ้งว่า นายเลวินสัน ถูกพบเสียชีวิตแล้วในเรือนจำของอิหร่าน หลังจากตามหาตัวมานานกว่าสิบปปี
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ทางการอิหร่านได้ออกมาตอบโต้ข่าวดังกล่าว โดยอาลิเรซา มิเรียวเซฟี หัวหน้าฝ่ายสารสนเทศของอิหร่านประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า อิหร่านไม่รู้ว่านายเลวินสันอยู่ที่ไหน และว่า นายเลวินสันไม่ได้อยู่ในเรือนจำของอิหร่าน
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ไม่ได้ออกมายืนยันการเสียชีวิตของเลวินสันเช่นกัน
ทั้งนี้ยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ครอบครัวของเลวินสัน อดีตเจ้าหน้าที่ของเอฟบีไอ แถลงว่า ทางครอบครัวได้รับทราบข่าวการเสียชีวิตของเลวินสันจากทางการสหรัฐ บุคคลซึ่งเป็นสามีและพ่อที่แสนดี ว่า ได้เสียชีวิตลงขณะอยู่ในเรือนจำของอิหร่าน แต่ไม่รู้รายละเอียดใดๆ ไม่รู้ว่า เสียชีวิตเมื่อใด หรืออย่างไร ส่วนร่างของเลวินสันจะถูกส่งกลับมาให้ทางครอบครัวต่อไป
ครอบครัว เปิดเผยว่า เลวินสัน เสียชีวิตก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนักอยู่ทั่วโลก รวมทั้งในอิหร่าน ที่ทำให้รัฐบาลอิหร่านต้องออกมาตรการหลายอย่างเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสร้ายนี้ รวมไปถึงการปล่อยนักโทษนับหมื่นคนเป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ เลวินสัน เป็นหนึ่งในชาวอเมริกันที่หายตัวไประหว่างอยู่ในประเทศอิหร่าน ซึ่งถือว่าเป็นประเทศคู่อริสำคัญของสหรัฐอเมริกา แต่กรณีของเลวินสันนั้น ถือเป็นการหายตัวไปอย่างน่าสงสัย
ข่าวระบุว่า เลวินสัน ซึ่งมีลูกถึง 7 คน ได้หายตัวไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2550 ที่เกาะคิช เกาะซึ่งมีนโยบายผ่อนปรนเรื่องวีซ่ามากกว่าที่อื่นๆของอิหร่าน โดยระหว่างที่หายตัวไป นายเลวินสันกำลังเข้าไปตรวจสอบเรื่องบุหรี่ปลอมอยู่ อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2556 วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า เลวินสัน ซึ่งได้เกษียณออกจากเอฟบีไอไปแล้ว และได้ไปทำงานให้กับสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ของสหรัฐ ได้เข้าไปในอิหร่านเพื่อปฏิบัติการเก็บข้อมูลข่าวกรองของอิหร่าน และว่า ซีไอเอได้จ่ายเงินให้แก่ คริสตีน ภรรยาของเลวินสัน เป็นเงิน 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อชดเชยที่เลวินสันหายตัวไป
