จีนห้ามต่างชาติเข้าประเทศ หลังผู้ป่วย โควิด-19 จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

(Photo by STR / AFP) / China OUT

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ทางการจีนแจ้งว่า มีผู้ป่วย โควิด-19 ที่มาจากต่างประเทศ เพิ่มมากขึ้นกว่า 50 รายในวันเดียว โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง ทางการจีนเพิ่งประกาศห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ ประเทศจีน ที่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนมียอดผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศที่ลดน้อยลงอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงสัญญาณที่ดีว่า จีนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว แต่ขณะนี้ จีนกำลังเผชิญกับปัญหาใหม่ คือผู้ป่วยที่มาจากต่างประเทศ
โดยคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติ (เอ็นเอชซี) ของจีน แจ้งเมื่อวันที่ 27 มีนาคมว่า จีนมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 55 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 1 ราย และมาจากต่างประเทศ 54 ราย ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของผู้ป่วยที่มาจากต่างประเทศ ทำให้จีนต้องเร่งหาทางควบคุุมการระบาดอีกครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ที่รวมถึงพวกนักเรียน นักศึกษาที่ไปต่างประเทศแล้วกลับมา ทำให้ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในจีน ที่มาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 595 รายแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ทางการจีนได้ประกาศมาตรการเข้มงวดเพื่อลดการเดินทางเข้าประเทศ โดยลดจำนวนเที่ยวบินจากต่างประเทศ และจำกัดให้บนเครื่องมีผู้โดยสารได้เพียง 75 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ โดยกระทรวงต่างประเทศจีนแจ้งว่า ผู้ที่ไม่ใช่ชาวจีน ที่มีถิ่นพำนักอยู่ในจีน โดยมีวีซ่าที่ถูกต้องและใบอนุญาตให้อยู่ในจีน จะถูกสั่งห้ามกลับเข้าจีน หลังจากเที่ยงคืนวันที่ 27 มีนาคมนี้ ซึ่งคำสั่งดังกล่าวจะเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเพื่อบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส ขณะที่เจ้าหน้าที่การทูตและลูกเรือของสายการบินระหว่างประเทศ และทางเรือ จะยังสามารถเข้าประเทศจีนได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image