เมื่อวันที่ 28 มีนาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุตำรวจแอฟริกาใต้ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ภายใต้มาตรการปิดเมืองเพื่อคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ยิงกระสุนปืนยางเข้าใส่ฝูงชนราว 200-300 คน ที่ยืนออเข้าแถวรอจะเข้าไปจับจ่ายซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตดัง Shoprite ในย่านยอวิลล์ ในนครโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นวันที่ 2 แล้วของการล็อคดาวน์ประเทศของแอฟริกาใต้
เหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมาด้วยรถลาดตระเวณมากถึง 10 คัน ต้องยิงกระสุนปืนยางเข้าใส่ฝูงชนที่มาซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้เกิดขึ้นหลังจากผู้คนจำนวนมากพากันยืนเข้าแถวชิดกันเพื่อจะเข้าไปซื้อของด้านใน โดยลืมนึกถึงคำแนะนำให้เว้นระยะห่างกัน (Social Distancing) เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรค สร้างความสะดุ้งตกใจให้แก่ประชาชนที่ยืนต่อคิวรอกันอยู่ โดยที่มีผู้หญิงรายหนึ่งที่อุ้มทารกอยู่ล้มลงไปกองกับพื้น
ทั้งนี้ประธานาธิบดีซีริล รามาโฟซา ของแอฟริกาใต้ ออกคำสั่งให้ประชาชนที่มีอยู่ราว 57 ล้านคนทั่วประเทศ อยู่ในบ้านพักเป็นเวลา 21 วันเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคและได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารออกตรวจตราบังคับใช้กฎหมายภายใต้มาตรการล็อคดาวน์ แต่ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะในชุมชนยากจน ท้าทายคำสั่งดังกล่าวด้วยการออกมาหาซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็น ซึ่งรัฐบาลอนุโลมให้ทำได้ แต่ห้ามการออกมาวิ่งออกกำลังและการจูงสุนัขเดินเล่น ขณะที่แอฟริกาใต้มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 1,170 ราย และยังมีผู้เสียชีวิตเพียงรายเดียวเท่านั้น
