สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 1 เมษายนว่า ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียปิดตลาดในแดนลบอีกครั้งในวันนี้ ต่อเนื่องจากการร่วงลงปิดท้ายไตรมาสแรกในสหรัฐอเมริกา และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังส่งผลเสียหายอย่างหนักต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค
ดัชนีนิกเกอิ 225 ของญี่ปุ่นปิดตลาดลดลง 4.5 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 18,065.41 จุด หลังผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ทังกัน ออกมาต่อที่สุดในรอบ 7 ปีเพราะส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย ดัชนี เอสแอนด์พี/เอเอสเอ็กซ์ 200 ของออสเตรเลียได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นดีดขึ้น 3.6 เปอร์เซ็นต์ คอสปิ ของเกาหลีใต้ลดลง 3.8 เปอร์เซ็นต์ หั่งเส็งของฮ่องกง ลดลง 2.6 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตที่จีน ลดลง 0.5 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับดัชนีเซนเซกซ์ของอินเดียลดลง 3.4 เปอร์เซ็นต์ สิงคโปร์และอินโดนีเซียก็ปรับตัวลดลง แต่ที่สวนทางบวกเพิ่มขึ้นคือตลาดในไทยและมาเลเซีย
ทั้งนี้ตลาดวอลสตรีทก็ปรับตัวลดลงส่งท้ายไตรมาสแรก ทำให้เป็นไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดของตลาดในรอบกว่าสิบปีตั้งแต่ปี 2008 เรื่อยมา เอสแอนด์พี500 ลดลง 1.6 เปอร์เซ็นต์ทั้งไตรมาสหายไป 20 เปอร์เซ็นต์ และ ดาวโจนส์ 30 ลดลง 23.2 เปอร์เซ็นต์ทำสถิติเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดตั้งแต่ปี 1987
ราคาน้ำมันดิบชนิดเบรนท์ ลดลง 1.02 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 25.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอ ลดลง 42 เซนต์ มาอยู่ที่ 20.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นรวดเดียว 0.58 เปอร์เซ็นต์หรือ 9.30 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,605.90 ต่อออนซ์
