วิกฤตโควิด-19 ทำ ตลาดหุ้นโลก-เอเชียยังผันผวนหนัก
ปัจจัยลบยังส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งในเอเชียผันผวนต่อเนื่อง ทั้งจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 กับตัวเลขการเสียชีวิตที่ยังพุ่งสูงในหลายประเทศตะวันตก เรื่อยไปจนถึงผลกระทบต่อกิจการด้านต่างๆ ทั้งธนาคาร, สาธารณูปโภคและค้าปลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ วิททิง ปิโตรเลียม หนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันดิบจากหินน้ำมัน หรือเชลออยล์ ที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่นอร์ธดาโกตา ยื่นขอความคุ้มครองจากเจ้าหนี้ตามรัฐบัญญัติล้มละลายของสหรัฐอเมริกา
ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์เกือบทุกค่าย รายงานยอดขายลดวูบลงในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะฮุนได ที่ยอดขายลดมากถึง 43 เปอร์เซ็นต์ ส่วนยอดยื่นขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยก็หดตัวลงมากถึง 24 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 4.4 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเอสแอนด์พี 500 ลดลงต่อเนื่องอีก 1.5 เปอร์เซ็นต์ นาสแดก คอมโพสิต ติดลบอีก 4.4 เปอร์เซ็นต์
ในภูมิภาคเอเชีย ดัชนียิกเกอิ ที่โตเกียวปิดลดลง 1.4 เปอร์เซ็นต์ สวนทางกับหั่งเส็งในฮ่องกง ที่มีแรงซื้อเข้ามาในตอนท้ายช่วยตลาดปิดในแดนบวก 0.4 เปอร์เซ็นต์ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวก 1.7 เปอร์เซ็นต์, ซิดนีย์ และ กัวลาลัมเปอร์ ติดลบ 2 เปอร์เซ็นต์เหมือนๆ กัน ในขณะที่สิงคโปร์ลดลง 0.2 เปอร์เซ็นต์ ตลาดหุ้นนิวซีแลนด์และฟิลิปปินส์ ก็อยู่ในแดนลบเช่นเดียวกัน
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์หลังจีนออกมาเรียกร้องให้นานาประเทศจัดซื้อน้ำมันเข้าคลังน้ำมันสำรอง ลดความกดดันต่อตลาดลง หลังจากความต้องการน้ำมันทั่้วไปลดลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงมาก น้ำมันดิบชนิดเบรนท์ เพิ่มขึ้น 11.7 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 27.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนดับเบิลยูทีไอ ปรับตัวสูงขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 22.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง อีก 0.92 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 1,606.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อ 15.00 น.
