นักวิจัยอเมริกันชี้ยาแรงอย่าง “ล็อคดาวน์” อาจใช้เวลาถึง 6 สัปดาห์ คุมโควิดอยู่

ภาพเอเอฟพี

รายงานการศึกษาของทีมนักวิจัยอเมริกันที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร “SSRN” วารสารเกี่ยวกับงานค้นคว้าวิจัยเบื้องต้น ซึ่งทำการศึกษาข้อมูลสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนาใน 36 ประเทศและ 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา ชี้ว่า มาตรการล็อคดาวน์หรือการปิดเมืองปิดประเทศ ซึ่งเป็นยาขนานแรงที่หลายประเทศนำมาใช้ในความพยายามสกัดยับยั้งการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ก่อโรคปอดอักเสบรุนแรงนั้น อาจจะต้องใช้เวลานานถึงอย่างน้อย 6 สัปดาห์ จึงจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ดังกล่าวนั้นได้

รายงานการศึกษาชิ้นนี้ที่มีการเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ระบุว่า ประเทศที่นำมาตรการแทรกแซงเชิงรุกเด็ดขาดมาใช้ เช่น การล็อคดาวน์ปิดพื้นที่ การสั่งให้ประชาชนอยู่บ้าน การตรวจหาเชื้อจำนวนมากและการแยกกักโรค อาจจะทำให้เห็นผลของมาตรการนี้ในระดับปานกลางหลัง 3 สัปดาห์ไปแล้ว และอาจเห็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้หลังจาก 1 เดือน และจำกัดควบคุมโรคไว้ได้หลังจาก 45 วัน แต่หากการดำเนินมาตรการที่อ่อนกว่านี้ ก็อาจจะต้องใช้เวลานานมากกว่านี้ถึงจะควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดเอาไว้ได้อยู่

ทีมนักวิจัยอเมริกันกล่าวอีกว่ากรณีศึกษานี้สนับสนุนการดำเนินมาตรการคุมเข้มอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นมาตรการล็อคดาวน์ของอิตาลีและรัฐแคลิฟอร์เนีย การตรวจหาเชื้อจำนวนมากและการแยกกักโรคที่ใช้ในเกาหลีใต้และสิงคโปร์ หรือการใช้มาตรการทั้งสองแบบนี้ผสมผสานกันไปอย่างในประเทศจีน ส่วนสหรัฐนั้นเผชิญความท้าทายที่มีลักษณะเฉพาะ เนื่องจากมีรัฐต่างๆ ในสหรัฐเพียงแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่นำมาตรการที่เป็นยาแรงมาใช้และยังมีขึ้นในเวลาที่แตกต่างกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image