เมื่อวันที่ 8 เมษายน สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา กล่าวหาองค์การอนามัยโลก (ฮู) ว่ามุ่งให้ความสนใจกับจีนมากเกินไปและยังตำหนิฮูว่าให้คำแนะนำผิดพลาดในการรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยทรัมป์ยังขู่จะระงับเงินสนับสนุนที่สหรัฐจะมอบให้ฮูอีกด้วย
“ฮูปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป ด้วยเหตุผลบางอย่าง เงินสนับสนุนส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกา แต่ยังยึดจีนเป็นศูนย์กลาง เราจะพิจารณาเรื่องนี้ โชคดีที่ผมปฏิเสธคำแนะนำของพวกเขาที่ให้เปิดพรมแดนของเราไว้ให้จีนก่อน ทำไมพวกเขาถึงให้คำแนะนำผิดพลาดกับเราเช่นนี้?” ทรัมป์ทวีตข้อความวิจารณ์ฮูเมื่อวันที่ 7 เมษายน
ในเวลาต่อมาทรัมป์แถลงย้ำกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า ฮูส่งสัญญาณผิดพลาดและสหรัฐกำลังจะพิจารณาระงับเงินสนับสนุนที่มอบให้ฮู แต่ทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเป็นจำนวนเท่าใด
นายสเตฟาน ดูฌาร์ริก โฆษกรสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งเป็นเสาหลักของความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีหลายหน่วยงานอยู่ในสังกัด ซึ่งรวมถึงองค์การอนามัยโลกที่ขณะนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ฮู ได้ปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มีต่อฮู โดยกล่าวว่า สำหรับเลขาธิการยูเอ็นแล้วเป็นที่ชัดเจนว่าฮูทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมเรื่องโควิดในการให้ความสนับสนุนประเทศต่างๆ ด้วยอุปกรณ์เครื่องมือมากมายนับหลายล้านชิ้นที่ส่งไปให้ การช่วยฝึกอบรมและให้แนวทางปฏิบัติทั่วโลก ซึ่งฮูได้แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาฮูยังประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับโรคอีโบลา ซึ่งเป็นโรคติดต่อร้ายแรงในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกด้วย
ขณะที่นายลินด์ซีย์ แกรมห์ วุฒิสมาชิกพรรครีพับกันผู้ใกล้ชิดทรัมป์ กล่าวลั่นว่าจะไม่มีการให้เงินสนับสนุนฮูในการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณในครั้งต่อไปของวุฒิสภาสหรัฐ
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 31 มกราคม ฮูได้แนะนำให้ประเทศต่างๆ เปิดพรมแดนของตนเองเอาไว้ทั้งๆ ที่เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ฮูจะระบุว่าทุกประเทศมีสิทธิที่จะดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อปกป้องพลเมืองของตนเองได้ และในวันดังกล่าวนี้รัฐบาลทรัมป์ก็ได้ประกาศมาตรการคุมเข้มการเดินทางมาจากประเทศจีนด้วย ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ฮูของกลุ่มหัวอนุรักษนิยมในสหรัฐที่มากขึ้นว่าฮูพึ่งพาข้อมูลผิดๆ จากจีนเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19
