‘ไอเอ็มเอฟ’ เตือนโลกเจอวิกฤตศก.หนัก เลวร้ายที่สุดหลังสงครามโลกครั้งที่ 1

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)ออกมาเตือนว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 กำลังทำให้โลกต้องเผชิญกับวิกฤตทางเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปีค.ศ. 1929

นางคริสตาลินา จอร์จีวากรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้กลายเป็นลบอย่างรุนแรง ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปี 2564 ก็จะฟื้นตัวเพียงบางส่วนเท่านั้น

ทั้งนี้มาตรการปิดเมืองที่รัฐบาลของหลายประเทศนำมาใช้บีบให้บริษัทจำนวนมากต้องปิดตัวลงหรือต้องปลดพนักงาน โดยก่อนหน้านี้ผลการศึกษาของสหประชาชาติชี้ว่า 81% ของจำนวนแรงงาน 3.3 พันล้านคนทั่วโลก ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการหรือระงับการจ้างงานบางส่วน

นางจอร์จีวากล่าวว่า เพียงสามเดือนก่อนหน้านี้ เรายังคาดการณ์ว่ารายได้ต่อหัวของประชากรใน 160 ประเทศสมาชิกไอเอ็มเอฟจะเป็นบวกในปีนี้ แต่วันนี้ตัวเลขได้กลับกลายเป็นตรงกันข้าม เราคาดการณ์ว่ามากกว่า 170 ประเทศจะเผชิญกับตัวเลขรายได้ต่อหัวที่เติบโตติดลบในปีนี้

Advertisement

“ในความเป็นจริง เรากำลังเผชิญกับการล่มสลายของเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปี 1929”นางจอร์จีวากล่าว

กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟกล่าวอีกว่า หากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาลดลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ไอเอ็มเอฟคาดว่าเราจะเห็นเศรษฐกิจบางส่วนฟื้นตัวขึ้นได้ในปีหน้า อย่างไรก็ดีสถานการณ์ก็อาจจะเร็วร้ายลงหนักกว่าเดิมได้เช่นกัน เนื่องจากยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เพราะมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายประการซึ่งรวมถึงระยะเวลาของการแพร่ระบาด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image