ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศที่ 4 ในโลกที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตเนื่องจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สูงกว่า 15,000 ราย โดยประเทศที่พบผู้เสียชีวิตมากกว่าจำนวนดังกล่าวก่อนหน้านี้คืออีตาลี สเปน และสหรัฐอเมริกา
เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของฝรั่งเศสระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลและในสถานพยาบาลผู้สูงอายุของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 5% ในหนึ่งวันที่ผ่านมา ทำให้ยอดสะสมของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 15,729 ราย ขณะที่ผู้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเพิ่มขึ้น 5.3% อยู่ที่ 103,573 คน แต่จำนวนดังกล่าวยังไม่นับรวมผู้ที่คาดว่าจะติดเชื้อในสถานพยาบาลผู้สูงอายุอีก 26,680 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมของฝรั่งเศสสูงกว่า 130,000
จำนวนของผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อในฝรั่งเศสล่าสุดนี้เพิ่มขึ้นกว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตในช่วงสองวันก่อนหน้าอยู่ที่ 4% ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.8% ส่วนวันอาทิตย์เพิ่มขึ้นเพียง 1.7% เท่านั้น
ทั้งนี้จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกกำลังไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ตัวเลขล่าสุด ในช่วงเช้าของวันที่ 15 เมษายนอยู่ที่ 125,678 ราย โดยสหรัฐยังคงมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่ 25,757 อีตาลี 21,067 สเปน 18,056 ฝรั่งเศส 15,729 และอังกฤษ 12,107
ด้านจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกอยู่ที่ 1,970,879 คน โดยสหรัฐมีผู้ติดเชื้อทำสถิติมากถึง 602,989 คน มากกว่าสเปนที่รั้งอันดับ 2 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 172,541 ถึง 430,448 คน ตามด้วยอีตาลี 162,488 และฝรั่งเศส 131,361
ส่วนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้วอยู่ที่ 472,948 คน