เมื่อวันที่ 17 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหญิงบัสมาห์ บินท์ ซาอูด พระชันษา 56 ปี สมาชิกในราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย ร้องขอให้สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซิส อัล ซาอูด กษัตริย์ซาอุฯ ผู้ทรงเป็นพระปิตุลา (ลุง) และ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร ที่ถือเป็นผู้ปกครองซาอุฯที่แท้จริง ทรงปล่อยตนเองออกจากการถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยเจ้าหญิงบัสมาห์ให้เหตุผลว่าตนเองมีปัญหาด้านสุขภาพที่ทรุดแย่ลง
เจ้าหญิงบัสมาห์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจหญิงและเป็นสมาชิกราชวงศ์ที่เป็นคนพูดจาเปิดเผยตรงไปตรงมา ได้ยื่นคำร้องขอดังกล่าวผ่านการเขียนโพสต์ลงบนบัญชีทวิตเตอร์ของตนเมื่อวันที่ 16 เมษายนระบุว่า ตนเองมีสุขภาพย่ำแย่และอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ แต่ไม่ได้ระบุว่ามีอาการป่วยอย่างไร
เจ้าหญิงบัสมาห์ระบุอีกว่า ตนเองถูกจับกุมคุมขังอยู่ในเรือนจำตามอำเภอใจ หลังจากถูกลักพาตัวมาพร้อมกับลูกสาว โดยปราศจากการกระทำผิดหรือมีการตั้งข้อหาใดๆ จึงวอนขอให้กษัตริย์ซัลมานและมกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ ทรงปล่อยตัวเธอ
แหล่งข่าวใกล้ชิดในราชสำนักเผยว่า เจ้าหญิงบัสมาห์ถูกจับกุมตัวเมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ก่อนที่เจ้าหญิงบัสมาห์จะเดินทางไปรักษาตัวที่สวิตเซอร์แลนด์ โดยทางการซาอุฯไม่ได้ให้เหตุผลในการจับกุมตัวดังกล่าว
ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเจ้าหญิงบัสมาห์ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำอัลฮาอีร์ ที่ใช้คุมขังนักโทษทางการเมือง ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงริยาด ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนานั้น สามารถใช้โซเชียลมีเดียในการยื่นคำร้องดังกล่าวได้อย่างไร แต่ความเคลื่อนไหวของเจ้าหญิงบัสมาห์ครั้งนี้แสดงให้เห็นสัญญาณความวุ่นวายล่าสุดในราชวงศ์ซาอุฯ หลังจากเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทางการซาอุฯ ได้จับกุมพระอนุชาและพระราชนัดดาของกษัตริย์ซัลมานไปซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะจัดการสมาชิกในราชวงศ์ที่ไม่ลงรอยกับผู้ปกครอง
