เมื่อวันที่ 20 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า แนวโน้มในทางบวกของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในยุโรปหลายประเทศอย่างอิตาลี, สเปน และอังกฤษ ซึ่งเริ่มทยอยเปิดกิจการที่จำเป็นบางอย่างหลังจากอัตราการเสียชีวิตและการติดเชื้อเพิ่มเติมเริ่มลดระดับลง ไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้ดัชนีหุ้นในเอเชียถีบตัวสูงขึ้นมากแต่อย่างใด ดัชนีนิกเกอิในตลาดโตเกียวทรุดตัวลง 0.9 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ตลาดซิดนีย์และมะนิลา ลดลงพอๆกัน 1 เปอร์เซ็นต์ ตลาดสิงคโปร์, ไทเป และจาการ์ตาก็ยังร่วงลงต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ตลาดฮ่องกง, เซี่ยงไฮ้ และโซล ปรับเพิ่มขึ้น เล็กน้อยใกล้เคียงกัน ที่ 0.1 เปอร์เซ็นต์ คริส อิกโก นักวิเคราะห์การลงทุนของว แอ็กซา ในอังกฤษ ชี้ว่า ยิ่งนักลงทุนคำนึงถึงอนาคตมากเท่าใด ก็ยิ่งเห็นปัจจัยเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็ดิ่งลงหลังจากปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่าความต้องการน้ำมันทั่วโลกลดลงอย่างชัดเจน แม้จะมีความพยายามลดกำลังการผลิตแล้วก็ตาม ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับลดลงอีก 1.3 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 27.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนดับเบิลยูทีไอ ร่วงรวดเดียว 14.5 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 15.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กระทั่งยังลดลงต่ำกว่าระดับ 15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งต่ำสุดในรอบ 20 ปีชั่วระยะหนึ่งด้วย
ราคาทองคำเริ่มอ่อนตัวลงในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงอ่อนตัวลงต่อเนื่อง เมื่่อนักลงทุนคาดหมายกันว่าจะมีการเปิดให้เกิดกิจกรรมทางธุรกิจมากขึ้นในสหรัฐอเมริกา เปิดตลาดที่ 1,696.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ 1,689.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
