เมื่อวันที่ 20 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์แถลงว่า สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 1,426 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวต่างชาติที่มีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง ซึ่งถูกกักโรคอยู่ในหอพักคนงานหลายแห่ง ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นเป็น 8,014 ราย ถือว่ามากที่สุดในชาติอาเซียนแล้ว โดยแซงหน้าอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ไป ขณะที่สิงคโปร์มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 จำนวน 11 ราย
การพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นของสิงคโปร์มีขึ้นหลังจากทางการขยายการตรวจหาเชื้อในหมู่แรงงานต่างชาติในสิงคโปร์เพิ่มขึ้น ซึ่งแรงงานต่างชาติเหล่านี้ที่มีราว 200,000 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานในภาคก่อสร้างที่มาจากชาติในเอเชียใต้ ที่อยู่ภายใต้คำสั่งกักโรคอยู่ภายในหอพักคนงานเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยที่รัฐบาลสิงคโปร์คอยจัดหาอาหารให้และมีการทำความสะอาดที่พักให้มากขึ้น
ก่อนหน้านี้สิงคโปร์ได้รับเสียงชื่นชมถึงความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศได้อย่างดีช่วงเริ่มแรกจากการมีระบบการตรวจหาเชื้อและการติดตามร่องรอยโรคที่เข้มข้น แต่ขณะนี้สิงคโปร์กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกสอง หลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในหมู่แรงงานต่างชาติมากขึ้น
ส่วนในอินโดนีเซีย มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 185 ราย ทำให้อินโดนีเซียมียอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 6,760 ราย และมีผู้เสียชีวิตอีก 8 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมอยู่ 590 ราย
ด้านกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มอีก 19 ราย และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 200 ราย ส่งผลให้ฟิลิปปินส์มีผู้เสียชีวิตรวมเพิ่มเป็น 428 ราย และยอดผู้ติดเชื้อสะสม 6,459 ราย
