“แฮร์รี-เมแกน” ยื่นหลักฐานเด็ดสู้สื่อหัวสีดัง พ่อเมแกนต่างหากที่ “ตัดการติดต่อ”ลูกสาว!!!

แฟ้มภาพเจ้าชายแฮร์รี และ เมแกน แห่งราชวงศ์อังกฤษ (เอเอฟพี)

เมื่อวัน 21 เมษายน เว็บยาฮู รายงานทีมทนายความของเจ้าชายแฮร์รี และ ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ หรือ เมแกน มาร์เคิล พระชายา ยื่นหลักฐานต่อศาลสูงของอังกฤษเป็น ชุดข้อความส่วนตัวจากโทรศัพท์ของเจ้าชายแฮร์รี และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ที่เคยส่งถึง นายโธมัส มาร์เคิล บิดาของเมแกน มาร์เคิลหลายครั้ง ก่อนหน้าวันเสกสมรสของทั้งสองเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ปี 2561 แต่นายมาร์เคิลไม่เคยติดต่อกลับ แต่มีอยู่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ที่มี “โทรศัพท์ที่ไม่ได้รับสาย” จากนายโธมัสมาตอนตีสี่กว่า วันเสกสมรส

จากข่าวระบุว่า ชุดข้อความส่วนตัวจากโทรศัพท์ของเจ้าชายแฮร์รี และพระชายา เป็นส่วนหนึ่งที่ยื่นต่อศาลเป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีที่ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ยื่นฟ้องหนังสือเดอะ เมล์ ออน ซันเดย์ ล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ที่ตีพิมพ์เนื้อหาในจดหมายส่วนตัวที่เธอเขียนส่งถึงนายโธมัส ผู้เป็นบิดา

ทั้งนี้จากหลักฐานข้อความในโทรศัพท์ดังกล่าว พบว่า เจ้าชายแฮร์รี และ ดัชเชสเมแกน พยายามติดต่อ อ้อนวอนนายมาร์เคิลให้ติดต่อกลับหลายครั้ง แต่ไม่เคยได้รับการติดต่อใดๆจากนายมาร์เคิล อดีตผู้กำกับแสงวัย 75 ที่อำลาวงการบันเทิงฮอลลีวู้ดไปใช้ชีวิตบั้นปลายในเม็กซิโก

ข่าวระบุว่า จากข้อความส่วนตัวในโทรศัพท์ของเจ้าชายแฮร์รี พระชายาที่ถูกเปิดเผยเป็นครั้งแรกผ่านการทวีตของ นายคริส ชิป ผู้สื่อข่าวสายราชวงศ์ของสถานีโทรทัศน์ไอทีวีของอังกฤษ ระบุว่า เจ้าชายแฮร์รี ทรงส่งข้อความถึงนายมาร์เคิลว่า “ทอม นี่แฮร์รีนะ ผมกำลังจะโทรศัพท์หาคุณตอนนี้ ช่วยรับโทรศัพท์ด้วย ขอบคุณ ”

Advertisement

จากนั้นก็มีอีกข้อความว่า “ทอม นี่แฮร์รีอีกครั้งนะ ผมต้องการพูดกับคุณจริงๆ คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษ เราเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่การออกไปให้ข่าว มีแต่จะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น ถ้าคุณรักเม็กและต้องการแก้ไขให้ดีขึ้น ได้โปรดโทรหาผม ซึ่งยังมีทางเลือกอีกสองทาง ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องพูดให้ข่าวสื่อ ซึ่งเป็นคนสร้างเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้นมา ช่วยโทรหาผมเพื่อผมจะได้อธิบายให้คุณฟังได้ เม็กและผมไม่ได้โกรธคุณ เราแค่ต้องการพูดกับคุณ ขอบคุณ”

ขณะที่ข้อความที่ 3 จากเจ้าชายแฮร์รี ฟังดูเหมือนเป็นการเตือนว่า “โอ้ การพูดกับสื่อยิ่งจะทำให้เดือดร้อน ไว้ใจผมนะทอม มีเพียงเราเท่านั้นที่สามารถช่วยคุณ และเราก็ได้พยายามมาตั้งแต่วันแรก ”

ในทวีตของคริสยังโพสต์ถึงข้อความที่เจ้าชายแฮร์รี ส่งถึงนายมาร์เคิล 4 วันก่อนถึงวันเสกสมรสว่า “เราพยายามติดต่อคุณตลอดสุดสัปดาห์ แต่คุณไม่เคยรับโทรศัพท์ของเรา หรือตอบกลับข้อความใดๆเลย เรารู้สึกเป็นห่วงสุขภาพและความปลอดภัยของคุณมากและได้เตรียมมาตรการทุกอย่างที่จะปกป้องคุณแต่เราไม่แน่ใจว่าเราจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง ถ้าคุณไม่ติดต่อกลับ คุณต้องการความช่วยเหลือหรือไม่? ให้เราส่งทีมรักษาความปลอดภัยลงไปอีกครั้งไหม? ผมรู้สึกเสียใจที่ได้ข่าวว่า คุณเข้าโรงพยาบาล ได้โปรดติดต่อเรากลับมาด้วย คุณรักษาตัวที่โรงพยาบาลไหน? ”

Advertisement

ข่าวระบุว่า เข้าใจว่าข้อความดังกล่าวของเจ้าชายแฮร์รี ถูกส่งไปหลังจากนายมาร์เคิล มีแถลงการณ์ต่อเว็บบันเทิงดังทีเอ็มซีว่า เขามีอาการหัวใจวาย และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล โดยไม่ได้แจ้งให้เจ้าชายแฮร์รี และ เมแกน บุตรสาวรู้เรื่อง ขณะที่ เมแกน ก็ว่าเธอรู้ข่าวพ่อเข้าโรงพยาบาลจากเว็บทีเอ็มซี

ขณะที่หนังสือเดอะ การ์เดียนของอังกฤษ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายมาร์เคิล ปฎิเสธไม่ยอมรับทีมรักษาความปลอดภัยที่จะมาช่วยคุ้มกันตัวเขาเองจากการรุกล้ำของสื่อ ทั้งอ้างเอกสารที่ทีมนายของเจ้าชายแฮร์รี พระชายา ยื่นเป็นหลักฐานต่อศาลระบุว่า เมแกนได้ส่งข้อความถึงผู้เป็นพ่อ ที่เคยตกเป็นข่าวฉาวร่วมมือกับช่างภาพ สร้างข่าว และจัดฉากถ่ายรูปของนายมาร์เคิลเองระหว่างใช้ชีวิตอยู่ในเม็กซิโก และมีข่าวและรูปของนายมาร์เคิลปรากฎในหนังสือเดอะ เมล์ ออน ซันเดย์ ก่อนหน้าที่เมแกน จะเข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายแฮร์รีกระทั่งเป็นข่าวดัง และลงท้าย นายมาร์เคิล ก็ไม่ได้ไปร่วมงานเสกสมรสของบุตรสาวว่า “แฮร์รี และลูกตัดสินใจกันเมื่อเช้าและได้ส่งทีมบอดี้การ์ดทีมเดียวกับที่พ่อเคยปฎิเสธเมื่อสุดสัปดาห์นี้ไปคอยดูแลเพื่อให้แน่ใจว่าพ่อปลอดภัย พวกเขาจะอยู่ที่นั่นทันทีที่พ่อต้องการ ได้โปรดโทรศัพท์หาเราเร็วที่สุดเท่าที่พ่อทำได้ เรื่องต่างๆทั้งหมดนี้ดูน่าเป็นห่วงแต่สุขภาพของพ่อสำคัญที่สุด”

ในเอกสารหลักฐานที่ยื่นต่อศาลระบุว่า เมแกน ไม่ได้รับการติดต่อกลับใดๆจากนายมาร์เคิลในช่วงเวลาหลายวัน ก่อนวันเสกสมรส แต่มี โทรศัพท์ที่เธอไม่ได้รับสายเพียงสายเดียวจากนายมาร์เคิล ที่โทรศัพท์มาตอนเช้ามืดในวันเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รีกับเธอ

ในเอกสารยังระบุว่า หลังจากวันเสกสมรส เจ้าชายแฮร์รี พระชายา ไม่เคยติดต่อ พูดคุยกับ นายโธมัส มาร์เคิล เลย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image