สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 22 เมษายนนี้ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงทรุดลงอย่างต่อเนื่อง จากปัญหาล้นตลาดเพราะความต้องการใช้ลดวูบลงทั่วโลก ทำให้น้ำมันดิบชนิดเบรนท์ ตกลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1999 เรื่อยมา โดยลดลง 24 เปอร์ซ็นต์ มาอยู่ที่ระดับ 15.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 1999 ก่อนที่จะปรับขึ้นเล็กน้อย มาอยู่ที่ 16.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 12.00 น. ตามเวลาไทย
ส่วนน้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอในตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่สหรัฐอเมริกา แกว่งตัวอย่างหนักทรุดลงไปอยู่ในแดนลบอีกถึง 2 ครั้ง สำหรับสัญญาซื้อขายกำหนดส่งมอบในเดือนมิถุนายน ก่อนปรับขึ้นมาอยู่ในแดนบวกได้ แต่ก็ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าราคาก่อนหน้านี้ 4.4 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 11.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงมาแล้วราว 80 เปอร์เซ็นต์จากระดับราคาเมื่อเดือนมกราคม หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ก่อให้เกิดสภาวะเศรษฐกิจทรุดตัวลงอย่างหนักทั่วโลก
ตลาดหุ้นในเอเชียเริ่มทรงตัวได้หลังจากผันผวนในแดนลบในสัปดาห์นี้ หลายตลาดได้รับแรงหนุนจากการประกาศมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลทำให้ดัชนีปรับขึ้นมาได้บ้างในวันนี้ โดยตลาดโตเกียวยังปิดตลาดในแดนลบ 0.7 เปอร์เซ็นต์ สิงคโปร์และไทยลดลง 0.9 เปอร์เซ็นต์ ตลาดนิวซีแลนด์ปรับลดลงถึง 1 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์และตลาดซิดนีย์ ออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม ฮ่องกง, เซี่ยไฮ้, มุมไบ, จาการ์ตา, โซล และไทเป สามารถดีดตัวขึ้นไปอยู่ในแดนบวกได้สำเร็จ