การทดสอบวัคซีนเพื่อรักษาผู้ป่วยที่ติดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 ในยุโรป ได้เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกแล้วที่อังกฤษ โดยได้มีการฉีดวัคซีนให้กับอาสาสมัคร 2 รายแรกซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนอาสาสมัครรวม 800 คนที่เข้าร่วมในการศึกษาดังกล่าว
กลุ่มอาสาสมัคร 800 คนจะถูกออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะได้รับวัคซีนโควิด-19 ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งจะได้รับวัคซีนอีกตัวหนึ่งซึ่งป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบแต่ไม่ใช่วัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา โดยอาสาสมัครแต่ละคนจะไม่ทราบว่าตนเองได้รับวัคซีนชนิดไหน เพื่อที่คณะผู้วิจัยจะได้ติดตามอาการของผู้ได้รับวัคซีนเพื่อนำมาประเมินผลต่อไป
เอลิซา กรานาโต หนึ่งในสองอาสาสมัครที่ได้รับการฉีดวัคซีนครั้งนี้บอกกับสำนักข่าวบีบีซีว่า เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ จึงต้องการที่จะเข้าร่วมในการทดสอบครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนความก้าวหน้าทางการแพทย์เท่าที่เธอสามารถจะทำได้
วัคซีนที่ทดลองครั้งนี้ถูกเรียกว่า “ChAdOxl nCoV-19” ถูกพัฒนาขึ้นในเวลาเพียง 3 เดือนจากคณะทำงานของสถาบันเจนเนอร์แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด นำโดยซาราห์ กิลเบิร์ต อาจารย์ทางด้านวัคซีนวิทยา ที่แสดงความเชื่อมั่นถึง 80% ว่าวัคซีนดังกล่าวน่าจะได้ผล
นอกจากอังกฤษแล้วอีกหลายประเทศในยุโรป อาทิ อิตาลี เยอรมนี และเบลเยียม ต่างก็กำลังร่วมมือกันเพื่อเร่งค้นหาวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา โดยระบุว่าน่าจะสามารถเริ่มต้นกระบวนการทดสอบได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ขณะที่สัปดาห์ก่อน บริษัทแกล็กโซสมิทไคล์น ซึ่งเป็นบริษัทค้นคว้าวิจัยพัฒนายา วัคซีน และผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพของอังกฤษ และบริษัทยาซาโนฟีของฝรั่งเศส ประกาศความร่วมมือที่จะพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ร่วมกัน โดยคาดว่าจะมีการเริ่มการทดสอบได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
นับจนถึงขณะนี้มีทีมผู้เชี่ยวชาญและทีมนักวิจัยกว่า 100 ทีมทั่วโลกที่กำลังพยายามผลิตวัคซีนเพื่อรักษาโควิด-19 โดยมีอย่างน้อย 5 แห่งที่ได้เริ่มทำการทดลองในมนุษย์ ซึ่งถือเป็นขั้นแรกของการทดสอบวัคซีน เพื่อให้ทราบว่าสิ่งที่คิดค้นขึ้นปลอดภัยหรือไม่ และควรจะต้องใช้ในปริมาณเท่าใดจึงจะมีความเหมาะสมโดยมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด
