ฮูหวั่น “ซับ-ซาฮารา” ตายเพราะมาลาเรียพุ่ง 2 เท่า เหตุโควิดขวางการเข้าถึงยาต้าน

แฟ้มภาพเอเอฟพี

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายน องค์การอนามัยโลก(ฮู) ออกมาเตือนว่าเหตุการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังอุบัติขึ้น อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางอย่างรุนแรงต่อการเข้าถึงมุ้งเคลือบกันยุงและยาต้านมาลาเรียในภูมิภาคซับ-ซาฮาราของทวีปแอฟริกา ซึ่งอาจส่งจะผลให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคมาลาเรียในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นตามมามากถึง 2 เท่าได้ หากไม่มีความพยายามมากพอในการจัดการกับปัญหานี้อย่างเร่งด่วน

ฮูยังร้องขอให้ประเทศต่างๆในซับ-ซาฮารา ซึ่งเป็นภูมิภาคที่พบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคมาลาเรียมากถึง 95 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคมาลาเรียทั่วโลก ให้เร่งแจกจ่ายอุปกรณ์และยาที่ใช้ป้องกันและรักษาโรคมาลาเรีย ก่อนที่ประเทศเหล่านี้จะต้องกลายมารับมือผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะมีขึ้นอย่างท่วมท้นแทน

ฮูอ้างบทวิเคราะห์สถานการณ์ 9 รูปแบบที่อาจเกิดขึ้น หากเกิดอุปสรรคขัดขวางการเข้าถึงเครื่องมือที่ใช้ในการควบคุมโรคมาลาเรียในระหว่างที่เกิดเหตุระบาดใน 41 ประเทศในภูมิภาคซับ-ซาฮารา แอฟริกา โดยในสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่การณรงค์ใช้มุ้งเคลือบกันยุงถูกทำให้หยุดชะงักและการเข้าถึงยาต้านมาลาเรียที่มีประสิทธิภาพถูกปรับลดลงถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ก็อาจจะทำให้มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคมาลาเรียในภูมิภาคนี้ในปีนี้พุ่งขึ้นถึง 769,000 รายได้ ซึ่งเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับในปี 2018 และจะเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากที่สุดนับจากปี 2000 เป็นต้นมา

ฮูย้ำว่าแม้ขณะนี้ประเทศในแถบซับ-ซาฮารา แอฟริกา ยังมีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพียงไม่กี่ราย แต่ไวรัสนี้กำลังย่างกรายอยู่ที่นั่น นั่นหมายความว่าประเทศต่างๆในภูมิภาคนี้ยังมีโอกาสที่จะลดการขัดขวางการเข้าถึงการรักษาและป้องกันโรคมาลาเรียและรักษาอีกหลายชีวิตไว้ได้ในขณะที่ไวรัสโควิด-19 ยังระบาดอยู่ในระดับนั้น แต่หากไม่เร่งลงมือทำสิ่งใดในตอนนี้ ก็อาจจะเกิดผลสะท้อนกลับที่ร้ายแรงขึ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image