| ที่มา | นสพ.มติชน รายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
นายชัยสิริ อนะมาน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะผู้แทนจากหลากหลายกรมในกระทรวงการต่างประเทศ อาทิ กรมสารนิเทศ กรมการกงสุล และกรมอาเซียน เดินทางร่วมคณะบัวแก้วสัญจรไปบรรยายให้ข้อมูลกับข้าราชการและผู้แทนภาคธุรกิจ ณ ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายประภาส รักษาทรัพย์ คอยต้อนรับ
ท่านรองฯประภาสระบุว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่กระทรวงการต่างประเทศนำคณะมาเยือนบุรีรัมย์ เพราะเป็นโอกาสที่จะได้มาเล่าสู่กันฟังถึงสิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศได้ทำให้ทั้งข้าราชการและประชาชนในจังหวัดได้ทราบ และเชื่อว่าการเดินทางมาของคณะบัวแก้วสัญจรจะเป็นประโยชน์สำหรับชาวบุรีรัมย์อย่างยิ่ง
ด้านที่ปรึกษาฯชัยสิริกล่าวว่า โครงการบัวแก้วสัญจรเป็นโครงการที่กระทรวงการต่างประเทศจัดมาอย่างต่อเนื่องและมีความสำคัญยิ่ง เพราะจะช่วยเผยแพร่ข้อมูลให้คนในต่างจังหวัดรู้ว่ากระทรวงการต่างประเทศทำงานอะไรอยู่ ขณะที่บุรีรัมย์ก็มีความสำคัญในฐานะจังหวัดที่มีชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน พี่น้องในต่างจังหวัดและในพื้นที่ทุกคนก็สามารถมีส่วนช่วยในการให้ข้อมูล ความเห็น และข้อเสนอแนะในการทำงานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อนำไปประกอบการกำหนดท่าทีของกระทรวงต่อไป
ที่ปรึกษาฯชัยสิริกล่าวด้วยว่า งานของกระทรวงการต่างประเทศไม่ใช่แค่การเจรจาทางการทูตเท่านั้น และไม่ใช่เรื่องไกลตัวคนไทยอีกต่อไป เพราะปัจจุบันคนไทยเดินทางไปต่างประเทศมากขึ้น หน้าที่ในการดูแลคนไทยไม่ว่าจะเดินทางไปทำงาน ท่องเที่ยว ถูกหลอกหรือถูกโกง กระทรวงการต่างประเทศสามารถให้ความช่วยเหลือได้ จึงอยากรับฟังว่าท่านคิดอะไร และอยากให้เราทำอะไร
ที่ปรึกษาฯชัยสิริยังพูดถึงประเด็นเรื่องการรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียนที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปลายปี 2558 ที่ผ่านมาว่า มีความสำคัญยิ่งเช่นกัน เพราะการรวมตัวกันของอาเซียนไม่ใช่เพียงแค่การเอาชื่อมารวมกัน แต่จะต้องพัฒนาต่อไป ต้องมองไปสู่อนาคตว่าเราจะปรับตัวกันอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียเปรียบ ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปเอาเปรียบเขา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความท้าทายอย่างแท้จริง เราจะทำตัวอย่างไรให้เข้ากับประชาคมอาเซียนที่เกิดขึ้นนี้ได้ ทั้งนี้ จังหวัดบุรีรัมย์มีศักยภาพอย่างยิ่งในการเป็นฮับในอนาคต เพราะเป็นจังหวัดติดชายแดนซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
หลังการพูดคุยชี้แจงและตอบข้อซักถามที่ศาลากลางจังหวัดแล้ว คณะบัวแก้วสัญจรเดินทางไปยังโรงเรียนวัดบ้านแสลงคง อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนในโครงการยุวทูตความดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2542 นับจนถึงปัจจุบันก็กว่า 17 ปีแล้ว
ที่ปรึกษาฯชัยสิริได้รับชมการแสดงและเยี่ยมชมนิทรรศการเกี่ยวกับอาเซียนจากน้องๆ นักเรียน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศได้ร่วมกันเล่นเกมเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับอาเซียนและงานของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานจากน้องๆ ในโรงเรียนวัดบ้านแสลงคงได้เป็นอย่างดี ที่ปรึกษาฯชัยสิริยังได้เป็นตัวแทนมอบเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินการของโครงการยุวทูตความดีให้กับโรงเรียนวัดบ้านแสลงคงด้วย
จากบุรีรัมย์ คณะบัวแก้วสัญจรเดินทางต่อไปยังชัยภูมิ ซึ่งต้องบอกว่าสภาพแวดล้อมสองข้างทางที่เห็นนั้นแตกต่างออกไปจากจังหวัดในภาคอีสานทั่วไป เพราะจากภาพทุ่งนาสุดลูกหูลูกตาตามสองข้างทางได้เปลี่ยนเป็นป่าเขาสวยงามแถมยังมีภูเขาทอดยาวให้เห็น ถ้าใครไม่รู้คงคิดว่ากำลังอยู่ในจังหวัดแถวภาคเหนือของไทยอย่างแน่นอน
นายชูศักดิ์ ตรีสาร ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เล่าให้ฟังว่า ชัยภูมิมีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับ 7 ของประเทศ และเป็นอันดับ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีภูมิประเทศเป็นป่าเขาสวยงาม และยังมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย พูดได้ว่าชัยภูมิมีดีเยอะ แต่คนมักจะผ่านไปหมด ทั้งที่เหมือนภาคเหนือ ไม่ใช่จังหวัดในอีสาน
ท่านผู้ว่าฯชูศักดิ์บอกว่า ชัยภูมิตั้งอยู่ตรงจุดกึ่งกลางของประเทศไทย มีพื้นที่กว้างใหญ่ซึ่งกว่าครึ่งหนึ่งเป็นป่าเขา ดังนั้น จึงมีการทำนาเพียงครึ่งเดียว ส่วนพื้นที่ที่เหลือปลูกผลไม้ ซึ่งมีทั้งสับปะรด กล้วยหอมทอง สตรอเบอร์รี่ มะม่วงน้ำดอกไม้ ส้มโอ ลำไย มะขาม ไปจนถึงทุเรียนและสะตอ แม้จะมีพื้นที่เกษตรมาก แต่ชัยภูมิกลับมีโรงงานอุตสาหกรรมไม่มากนัก
ท่านผู้ว่าฯชูศักดิ์บอกด้วยว่า แม้จะไม่ใช่จังหวัดชายแดนแต่ชัยภูมิก็มีการเตรียมความพร้อมรับประชาคมอาเซียน โดยมีการให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เชิญวิทยากรมาบรรยาย และให้ความรู้กับข้าราชการและประชาชนในจังหวัดอยู่เป็นระยะ
เมื่อถามถึงโครงการบัวแก้วสัญจร ท่านผู้ว่าฯชูศักดิ์เห็นว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะเนื้อหาสาระในการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวพันกับพี่น้องโดยตรง และข้อมูลที่ได้รับน่าจะเป็นผลดีและมีประโยชน์ เพราะขณะนี้คนชัยภูมินิยมเดินทางไปรับจ้างเก็บเบอร์รี่ในต่างประเทศ แต่ที่ผ่านมาไม่ประสบปัญหาอะไร
ด้านท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายนิพนธ์ สาธิตสมิตพงษ์ ได้กล่าวระหว่างเปิดการพูดคุยของผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศกับข้าราชการและภาคเอกชนที่ศาลาว่าการจังหวัดชัยภูมิว่า ถือเป็นโชคดีของชาวชัยภูมิที่ได้มีโอกาสต้อนรับคณะของกระทรวงการต่างประเทศ คนชัยภูมิเดินทางไปทำงานในต่างประเทศมาก ไม่ว่าจะในประเทศแถบเอเชียหรือยุโรป อาจมีปัญหาบ้างบางรายที่ไม่ได้ดั่งใจ แต่ในภาพรวมถือว่าประสบความสำเร็จ การที่คณะของกระทรวงการต่างประเทศมาให้ข้อมูล จะทำให้ผู้ที่มารับฟังได้ข้อมูลที่จะนำไปถ่ายทอดให้พี่น้องในจังหวัดได้รับทราบต่อไป
ระหว่างที่คณะบัวแก้วสัญจรอยู่ที่ชัยภูมิ มีการอบรมชาวบ้านที่สนใจไปทำงานเก็บผลไม้ในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ทำให้ นายธาตรี เชาวชตา ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ ซึ่งมาร่วมบรรยายให้ข้อมูลกับคณะบัวแก้วสัญจรเลยถือโอกาสไปร่วมบรรยายให้ข้อมูลในงานดังกล่าว เชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับชาวชัยภูมิที่สนใจจะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศไม่มากก็น้อย
จะบอกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวไปพร้อมๆ กันก็คงไม่เกินเลย
