เมื่อวันที่ 24 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายอิจิโร่ มัตซุอิ นายกเทศมนตรีเมืองโอซาก้าของญี่ปุ่น ถูกสังคมวิจารณ์หนักหลังจากกล่าวแนะให้ผู้ชายออกมาจับจ่ายซื้อหาข้าวของเข้าบ้านเองแทนผู้หญิง เนื่องจากผู้หญิงเป็นพวกลังเลและใช้เวลานานในการช้อปปิ้ง โดยเป็นข้อเสนอแนะให้ระหว่างที่นายมัตซุอิพยายามจะส่งเสริมการเว้นระยะห่างทางสังคมในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายมัตซุอิกล่าวถึงเรื่องนี้กับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี(23 เม.ย.)ว่า ผู้ชายควรได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ออกไปซื้อข้าวของเครื่องใช้เองเพราะผู้หญิง “ใช้เวลานานและและลังเลในการซื้อสิ่งนี้สิ่งนั้น” ส่วนผู้ชายหยิบของที่สั่งให้ซื้อแล้วก็ไป ตนคิดว่าดีที่ให้พวกเขาไปซื้อของขณะที่หลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัส
ญี่ปุ่นอยู่ภายใต้การประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีมาตรการเข้มงวดต่างๆออกมา หนึ่งในนั้นประชาชนได้ถูกร้องขอให้ลดการออกไปซื้อของนอกบ้านให้น้อยลง โดยขอให้แต่ละครอบครัวให้สมาชิกเพียงคนเดียวเป็นผู้ออกไปซื้อของเข้าบ้านเพื่อเป็นการจำกัดการติดต่อสัมผัส
ข้อเสนอแนะดังกล่าวของนายกเทศมนตรีเมืองโอซาก้าถูกก่นประณามและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ เช่น ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งกล่าวหานายมัตซุอิว่าดูหมิ่นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
อีกรายตอกหน้าว่าความคิดของนายมัตซุอิเต็มไปด้วยอคติที่มีต่อผู้หญิง และว่า ผู้ชายก็มีที่เป็นพวกลังเล ส่วนผู้หญิงก็มีความฉลาดแหลมคม
อีกรายถามกลับว่า “คิดว่าคนซื้อของอยากใช้เวลานานเหรอ? พวกเขาแค่กำลังคิดเรื่องเมนูและราคา”
อย่างไรก็ดีมีบางส่วนที่แสดงความเห็นด้วยที่ทวีตว่า “ใช่! โดยเฉพาะผู้หญิงสูงวัยมักมัวแต่คุย ไม่ได้สนใจเรื่องช้อปปิ้ง”
ท้้งนี้แม้ประชากรผู้หญิงในญี่ปุ่นจะมีการศึกษาสูง แต่ประเทศญี่ปุ่นติดอยู่ในอันดับ 121 จาก 153 ประเทศ ที่มีความเลื่อมหล้ำทางเพศสูงจากรายงานดัชนีวัดความเหลื่อมล้ำทางเพศปี 2020 ของเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม