ผู้ว่าฯนิวยอร์กชี้ไวรัสโควิด-19 เข้ามาระบาดจากยุโรป ไม่ใช่จีน

แฟ้มภาพ แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก (เอเอฟพี)

เมื่อวันที่ 25 เมษายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แถลงเมื่อวันก่อน (24 เม.ย.) อ้างผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์นในสหรัฐอเมริกา ชี้ว่าไวรัสโควิด-19 ที่เข้ามาระบาดในรัฐนิวยอร์กนั้น มาจากยุโรป ไม่ใช่จีน ทั้งยังกล่าวด้วยว่าคำสั่งห้ามเดินทางที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บังคับใช้นั้นก็สายเกินไปแล้วที่จะยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่คร่าชีวิตคนในรัฐนิวยอร์กไปแล้ว 21,291 ราย และทำให้มีผู้ติดเชื้อ 277,445 ราย

คูโอโมอ้างงานวิจัยดังกล่าว ระบุว่าชาวนิวยอร์กกว่าหมื่นคนอาจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงเวลาที่มีรายงานยืนยันผู้ติดเชื้อรายแรกในนิวยอร์กเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าเชื้อไวรัสนี้อาจมาจากอิตาลี

ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าวต่อว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ออกคำสั่งห้ามผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีนเข้ามายังสหรัฐเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ซึ่งผ่านไปแล้วมากกว่าหนึ่งเดือนหลังจากเริ่มมีรายงานการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในเมืองอูฮั่น ของจีน ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และผู้นำสหรัฐสั่งแบนการเดินทางมาจากยุโรปในอีกเดือนหลังจากนั้น ซึ่งเชื้อไวรัสก็ได้แพร่ระบาดเป็นวงการในสหรัฐแล้ว

“เราปิดประตูหน้าด้วยการห้ามการเดินทางจากจีน ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่เรากลับเปิดประตูหลังไว้เพราะไวรัสได้ออกจากจีนไปแล้วในช่วงเวลานั้นที่เราห้ามการเดินทางจากจีน” ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ (24 เม.ย.)

Advertisement

ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กยังกล่าวปกป้องการดำเนินการของตนเองโดยชี้ว่า 19 วันในระหว่างที่มีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรก เขาก็ได้ออกคำสั่งล็อกดาวน์รัฐนิวยอร์กแล้ว ซึ่งเป็นการลงมือทำที่เร็วกว่ารัฐอื่นในสหรัฐ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image