สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการสอบสวนเปิดเผยเมื่อวันที่ 17 กรกฏาคมว่า นายโมฮัมเหม็ด ลาอุยช์ บูห์เลล วัย 31 ปี ชาวตูนิเซียผู้ก่อเหตุขับรถบรรทุกไล่ชนผู้คนที่ออกมาเฉลิมฉลองวันบาสตีย์หรือวันชาติฝรั่งเศสในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศสเมื่อ 14 กรกฎาคม ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไป 84 ราย บาดเจ็บราว 300 คน ได้มาสังเกตการณ์บริเวณถนนโพรเมอนาด เดส์ ซองเกลส์ ริมชายหาดอันเป็นสถานที่เกิดเหตุ 2 วันก่อนหน้าที่จะลงมือ
นายบูห์เลลยังได้ส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์มือถือก่อนหน้าการโจมตี แสดงความพอใจที่ได้รับปืนสั้น ขนาด 7.65 มิลิเมตรและหารือถึงการจัดหาอาวุธอื่นๆ นอกจากนี้ เขายังได้ถ่ายรูปเซลฟี่ตนเองบริเวณล้อของรถบรรทุกขนาด 19 ตัน หลายวันก่อนหน้าที่จะลงมือก่อเหตุ
ข่าวระบุว่า ขณะที่ญาติและเพื่อนๆ ที่รู้จักนายบูห์เลลระบุว่า นายบูห์เลลที่มีอาชีพเป็นคนขับรถส่งของเป็นคนแปลกแยกไม่สุงสิงกับใคร มีประวัติการใช้ความรุนแรงและมีอาการป่วยทางจิต นอกจากนี้ยังเป็นคนดื่มหนักและไม่เคยไปมัสยิด ทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงข้อสังเกตของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนที่ระบุว่า ผู้ก่อเหตุ “เปลี่ยนเป็นพวกอิสลามแนวคิดสุดโต่งอย่างรวดเร็ว”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานว่าผู้ก่อเหตุมีความเชื่อมโยงกับกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่ออกมาอ้างเมื่อวันที่ 16 กรกฎาว่าเป็นผู้ลงมือ
ผู้ต้องสงสัยชาวแอลเบเนีย 1 รายที่จัดหาปืนให้นายบูห์เลลถูกควบคุมตัวในวันเดียวกัน ที่เมืองนีซ นอกจากนี้ยังมีการจับกุมผู้ที่เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องอีก 6 คน ขณะที่อดีตภรรยาของนายบูห์เลลที่หย่าร้างกัน ได้รับการปล่อตัวแล้วหลังถูกคุมตัวไว้สอบปากคำเป็นเวลา 2 วัน
ด้านมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (ยูซีเบิร์กลีย์) ในสหรัฐเปิดเผยว่า นายนิโคลัส เลสลี วัย 20 ปี นักศึกษาชาวอเมริกันที่เป็นหนึ่งในผู้ที่ขาดการติดต่อหลังเกิดเหตุได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว โดยนายเลสลีกำลังศึกษาอยู่ที่เมืองนีซเป็นส่วนหนึ่งของโครงการศึกษาในต่างประเทศของมหาวิทยาลัย ขณะที่มีนักศึกษาของยูซีเบิร์กลีย์อีก 3 ราย ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ด้วย
