สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ปรับลดประมาณการเติบโตของเขตเศรษฐกิจกำลังพัฒนาในเอเชียประจำปี 2559 ลงเล็กน้อยเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม โดยอ้างการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและผลกระทบจากการที่สหราชอาณาจักร หรือที่เรียกรวมๆ ว่าอังกฤษ ออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ในเหตุการณ์ที่เรียกกันว่าเบร็กซิท
ทั้งนี้ในรายงานส่วนเพิ่มเติมภาพรวมเขตเศรษฐกิจกำลังพัฒนาในเอเชียของเอดีบีระบุว่า เขตเศรษฐกิจกำลังพัฒนาในเอเชีย ที่ประกอบไปด้วย 45 ชาติในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คาดว่าจะขยายตัว 5.6 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ลดลงจาก 5.7 เปอร์เซ็นต์ในการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้าเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
การลงมติออกจากอียูอย่างน่าตกตะลึงของอังกฤษเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้ทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจยุโรปที่เซื่องซึมอยู่แล้วเอื่อยเฉื่อยลงไปอีก และสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดการเงินทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม เอดีบีที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ได้คงประมาณการเติบโตของภูมิภาคนี้ในปี 2560 ไว้เท่าเดิมที่ 5.7 เปอร์เซ็นต์
นายซ่าง จินเว่ย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบีระบุว่า “แม้เบร็กซิทจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินและตลาดหุ้นเอเชีย แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่แท้จริงเกิดขึ้นแค่ในระยะสั้นและคาดว่าจะไม่ใหญ่โตนัก”
เอดีบีเชื่อว่าจีนยังคงอยู่บนเส้นทางที่จะมีอัตราการเติบโตถึง 6.5 เปอร์เซ็นต์ ในปีนี้ และ 6.3 เปอร์เซ็นต์ในปี 2560 โดยเศรษฐกิจจีนเติบโตด้วยอัตราเร็วมากขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ แต่อัตราการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชนร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แสดงให้เห็นเป็นนัยว่า ความอ่อนแอในอนาคตอาจกดดันให้รัฐบาลต้องออกมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่านี้
ด้านเศรษฐกิจอินเดียยังคาดว่าจะโต 7.4 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ และ 7.8 เปอร์เซ็นต์ในปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคาดว่าจะโตที่ 4.5 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้และ 4.8 เปอร์เซ็นต์ในปีหน้า ส่วนเศรษฐกิจไทยนั้น เอดีบีคาดว่าจะโต 2.5 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ และ 3.0 เปอร์เซ็นต์ในปีหน้าเท่ากับที่คาดการณ์ไว้ครั้งที่แล้ว
