หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐออกมาระบุร่วมกันเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่นว่า ชุมชนข่าวกรองของอเมริกัน เชื่อว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 ที่มีต้นกำเนิดมาจากจีน ไม่ได้เกิดขึ้นจากการฝีมือมนุษย์หรือมาจากการดัดแปลงพันธุกรรมแต่อย่างใด
สำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ซึ่งสวนทางกับทฤษฎีสมคบคิดที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านจีนพยายามจะกระพือขึ้น โดยข้อกล่าวอ้างดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และกลุ่มผู้สนับสนุนของเขาที่พยายามจะนำไปขยายผลต่อว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้รับการพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์จีนเพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพในห้องทดลอง ก่อนที่จะเล็ดลอดออกมาจากห้องทดลองจนเป็นอันตรายกับมนุษย์
“ประชาคมข่าวกรองเห็นพ้องกับข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่อย่างกว้างขวางว่าไวรัสโควิด-19 ไม่ได้ทำขึ้นโดยฝีมือของมนุษย์หรือผ่านการตัดแต่งทางพันธุกรรม แต่เราจะยังคงติดตามตรวจสอบข้อมูลใหม่ใหม่รวมถึงหาข่าวกรองเพื่อชี้ชัดว่า การระบาดดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นผ่านการสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือเป็นผลจากอุบัติเหตุจากห้องทดลองที่นครอู่ฮั่น” แถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์ฉบับนี้สอดคล้องกับความเห็นขององค์การอนามัยโลก (ฮู) ที่ยืนยันมาเป็นระยะ รวมถึงในการยืนยันครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 21 เมษายนว่า หลักฐานที่มีอยู่ทุกอย่างในขณะนี้ทำให้เชื่อว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีต้นกำเนิดมาจากสัตว์ในจีนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยไม่ได้มีการดัดแปลงหรือทำขึ้นในห้องทดลองแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดีประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงกล่าวโทษจีนว่าเป็นต้นเหตุของการระบาดใหญ่ทั่วโลก โดยให้สัมภาษณ์ว่าเขาเชื่อว่าการจัดการกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาของจีนเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า จีนจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้เขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งหน้าในเดือนพฤศจิกายนนี้
ทรัมป์ยังคงย้ำความเชื่อมั่นของตนเองว่า โคโรนาไวรัสมีต้นกำเนิดมาจากห้องทดลองในจีน แต่ปฏิเสธที่จะแสดงหลักฐานใดๆ เพื่อยืนยันข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยอ้างว่าเขามีหลักฐานแต่บอกไม่ได้ เพราะไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยกับสื่อ
