ผู้นำชาติ “อียู” หนุนระดมเงินทุน 7.5 พันล้านยูโร พัฒนาวัคซีนต้าน “โควิด-19”

แฟ้มภาพเอเอฟพี

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรยงานว่า ชาวยุโรปหลายล้านคนเริ่มพ้นจากการถูกจำกัดการเคลื่อนไหวอย่างเข้มงวด หลังจากหลายชาติยุโรป รวมถึง อิตาลี ที่มีรายงานผู้เสียชีวิตและติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดชาติหนึ่งของยุโรป เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ลงในวันเดียวกันนี้จากที่มีการปิดเมืองเพื่อยับยั้งการระบาดของโรคมาตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม

โดยทางการอิตาลีอนุญาตให้ประชาชนออกมาทำกิจกรรมในสวนสาธารณะและเดินทางไปเยี่ยมเยี่ยมครอบครัวญาติพี่น้องได้เป็นครั้งแรก ส่วนภาคธุรกิจอย่างร้านค้าส่งและร้านอาหารที่เป็นการให้ซื้อกลับบ้าน ก็จะกลับมาเปิดให้บริการได้ภายใต้การปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด หลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสเปนได้ผ่อนปรนให้ประชาชนออกมาทำกิจกรรมตามสวนสาธารณะต่างๆได้ ส่วนรัฐบาลอังกฤษระบุว่าจะค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองไปตามลำดับ

ด้านผู้นำชาติยุโรปต่างให้ความสนับสนุนความริเริ่มของสหภาพยุโรป(อียู) ที่จะให้มีการะดมเงินทุน 7,500 ล้านยูโร หรือประมาณ 270,000 ล้านบาท เพื่อใช้สนับสนุนในการวิจัยพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยนายจูเซปเป้ คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลี ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครงของฝรั่งเศส และ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุสนับสนุนการระดมเงินทุนเพื่อการวิจัยพัฒนาวัคซีนดังกล่าว โดยชี้ว่ากระดมเงินสนับสนุนจะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนระหว่างนักวิทยาศาสตร์ หน่วยงานบังคับใช้กฎระเบียบ ภาคอุตสาหกรรม รัฐบาล องค์การระหว่างประเทศ องค์กรการกุศลต่างๆ จนถึงผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุข ในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 พร้อมระบุเตือนด้วยว่ายังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินอีกมากในการผลิต ทำให้มีการใช้ประโยชน์ สามารถเข้าถึงและซื้อหาวัคซีนดังกล่าวใช้ได้ในทั่วโลกอย่างทั่วถึง

ทั้งนี้จะมีการจัดประชุมทางออนไลน์ในการระดมเงินสนับสนุนการวิจัยพัฒนาวัคซีนกันในวันที่ 4 พฤษภาคมตามเวลาท้องถิ่น โดยมีหลายชาติยุโรปเป็นเจ้าภาพร่วม ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมสุดยอดว่าด้วยวัคซีนโลกในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ โดยนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวก่อนหน้าว่า อังกฤษจะประกาศมอบเงินสนับสนุนเพื่อการวิจัยวัคซีน ทดลองและใช้รักษา จำนวน 388 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงินสนับสนุนมูลค่า 744 ล้านปอนด์ที่จะใช้ในการร่วมต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image