เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตลาดหุ้นทั่วเอเชียทรุดตัวลงหนักหน่วง หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ประสานเสียงกล่าวหาจีนระลอกใหม่ ว่าเป็นที่มาของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้เกิดความวิตกว่าสงครามการค้าจะกลับคืนมาใหม่อีกหน ส่งผลให้ดัชนีหลักทั้ง 3 ตัวของตลาดหุ้นวอลสตรีทปิดตัวในแดนลบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้รับเลือกตั้งอีกสมัยในปลายปีนี้ เตือนว่าสหรัฐอาจยกเลิกความตกลงทางการค้าระยะที่ 1 ซึ่งส่งผลให้ยุติสงครามการค้าไว้ชั่วคราว ถ้าหากจีนไม่ยอมซื้อสินค้าอเมริกันจนถึง 200,000 ล้านดอลลาร์ตามที่ตกลงกันไว้ ในขณะที่นายปอมเปโอยืนกรานว่ามีหลักฐาน “สำคัญ” มากมายที่บ่งชี้ว่า ไวรัสที่แพร่ระบาดอยู่ในเวลานี้มีต้นตอจากห้องปฏิบัติการทดลองที่เมืองอู่ฮั่น
ดัชนีหุ้นหั่งเส็งของฮ่องกง ปิดตลาดทรุดลงหนักถึง 4.18 เปอร์เซ็นต์, มุมไบลดลง 5 เปอร์เซ็นต์, ไทเป, สิงคโปร์, มะนิลา และจาการ์ตา อ่อนตัวลงมากกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ มีเพียงซิดนีย์และเวลลิงตัน ที่ยังทรงตัวในแดนบวกได้ 1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตลาดโตเกียวและเซี่ยงไฮ้ ปิดทำการในวันนี้
ราคาน้ำมันดิบโลกก็ได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดใหม่นี้ ราคาน้ำมันดิบชนิดเบรนท์ในทะเลเหนือลดลง 1.1 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 26.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดับเบิลยูทีไอในสหรัฐอเมริกา ลดลง 6.1 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 18.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำในตลาดโลกเปิดตลาดที่ 1,710.80 ดอลลาร์ต่ออนซ์ ปิดที่ 1,714.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สูงขึ้น 3.6 ดอลลาร์