คอลัมน์ แกะรอยต่างแดน : เมื่อความเงียบเหงา ย่างกรายสู่เมือง”นีซ”

AFP PHOTO / Valery HACHE

หลังการตื่นตาตื่นใจจากการจัดแสดงดอกไม้ไฟที่ “เมืองนีซ” เมืองท่องเที่ยวริมหาดแสนสวยของประเทศฝรั่งเศส ที่จัดขึ้นเนื่องในวัน “บาสตีย์” หรือวันชาติของฝรั่งเศส วันที่ 14 กรกฎาคม

กลับกลายเป็นเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว เมื่อคนร้ายขับรถบรรทุกขนาดใหญ่ไล่ล่าผู้คนที่อยู่บริเวณริมหาดอย่างไม่ปรานี

สุดท้าย เหตุการณ์จบที่การสูญเสียชีวิตของประชาชนไป 84 คน ส่วนตัวผู้ก่อเหตุถูกยิงตายคารถบรรทุก

ภาพที่ผู้คนนอนตายจมกองเลือดเกลื่อนถนนยังติดตาใครหลายคน

Advertisement

เมืองนีซที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนที่มาพักผ่อน เงียบลงภายในพริบตา “ริฮันนา” ที่เตรียมจะมาแสดงคอนเสิร์ตในวันที่ 15 กรกฎาคม ก็ยกเลิกการแสดงไป เช่นเดียวกับนักร้องคนอื่นๆ ที่ต่างพากันยกเลิกแผนการแสดงที่เมืองนีซไปเช่นกัน ขณะที่นักท่องเที่ยวหายไปหมด

โดยปกติช่วงเดือนกรกฎาคมซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อน ที่เมืองนีซจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว กลับกลายเป็นเมืองร้างไร้ผู้คนมาเที่ยว

เมืองนีซเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับต้นๆ ของโลก

Advertisement

เช่นเดียวกับอีกหลายเมืองของฝรั่งเศส และยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นโกตดาซูร์ หรือเฟรนช์ริวีเอรา ติดชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของฝรั่งเศส ยาวไปถึงโมนาโก และเป็นสถานที่พักผ่อนยอดฮิตของบรรดาคนดังทั้งหลายมายาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในเมืองนีซแห่งนี้เต็มไปด้วยรีสอร์ต ร้านอาหาร สนามกอล์ฟ ที่เรียงรายไปตามชายหาดที่ยาวถึง 115 กิโลเมตร

แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวพากันมาอาบแดดกันที่เมืองนีซแห่งนี้มากถึง 5 ล้านคน ด้วยความงดงามของธรรมชาติ ท้องฟ้า ภูเขา ที่หลายคนโหยหา กับแสงแดดที่อบอุ่น

เมืองนีซเองเพิ่งจะฟื้นตัวจากการที่นักท่องเที่ยวลดลงไปหลังเกิดเหตุโจมตีปารีสเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ยังไม่ทันจะฟื้นตัวดี นีซก็ต้องมาเจอกับเรื่องร้ายๆ อีกครั้ง แต่คราวนี้เจอกับตัวเองเลย ยิ่งทำให้ปีนี้กลายเป็นปีที่ “ไม่ปกติ” สำหรับเมืองนีซ ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ ร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของเหยื่อที่เสียชีวิต ร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก ต่างเงียบไปตามๆ กัน

เมืองนีซที่สนุกสนานได้หายไปชั่วคราว รอวันเวลาในการเยียวยา ให้ฟื้นกลับมาอีกครั้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image