สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานสภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นทั่วเอเชียในวันที่ 6 พฤษภาคม ว่าหุ้นยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ แม้จะได้รับข่าวดีจากนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟดหรือธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ที่แสดงความคิดเห็นว่า เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในช่วงครึ่งหลังของปีอาจมีการขยายตัวเป็นบวก ประกอบกับการคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ส่งผลให้ดัชนีส่วนใหญ่ดีดขึ้นในแดนบวก แต่ยังมีปัญหาความกังวลเรื่องการระบาดระลอกใหม่ฉุดรั้งอยู่เหมือนเดิม
ดัชนีตลาดหุ้น ฮ่องกงและกรุงโซล เกาหลีใต้ บวกเพิ่มขึ้นกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ตลาดเซี่ยงไฮ้ของจีน บวกเพิ่ม 0.6 เปอร์เซ็นต์ ตลาดเวลลิงตัน เพิ่มขึ้น 0.8 เปอร์เซ็นต์ สิงคโปร์ บวกเพิ่ม 1 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ไทเปไม่เคลื่อนไหว และตลาดซิดนีย์ ของออสเตรเลีย ลดลงเล็กน้อย
ตลาดมุมไบของอินเดียยังขยับขึ้นมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ เพราะคาดหวังว่ารัฐบาลอินเดียอาจออกมาตรการช่วยเหลือออกมาเพิ่มเติม หลังจากตัวเลขดัชนีคำสั่งซื้อของผู้จัดการ (พีเอ็มไอ) ที่แสดงให้เห็นถึงกิจกรรมของโรงงานการผลิตทั่วอินเดียในเดือนเมษายน ลดลงฮวบฮาบมากถึง 43.9 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 5.4 เปอร์เซ็นต์ สร้างประวัติศาสตร์เหลือเพียงหลักหน่วยเป็นครั้งแรก โดยไอเอชเอส มาร์กิต ชี้ว่าดัชนีดังกล่าวทำให้คาดหมายได้ว่าเศรษฐกิจของอินเดียอาจหดตัวลงมากถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนเมษายน
ทางด้านตลาดน้ำมันดิบโลกในวันเดียวกันนี้ยังไม่ขยับมากนัก หลังปรับเพิ่มขึ้นมาเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา น้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอ ลดลง 0.7 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 24.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.1 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 31.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
