เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์แถลงถึงสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 753 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 22,460 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในหมู่แรงงานต่างด้าวที่พักอยู่ในหอพักแรงงานของสิงคโปร์ โดยมี 9 รายที่เป็นชาวสิงคโปร์หรือเป็นผู้มีถิ่นพำนักถาวรในสิงคโปร์ ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ยังคงอยู่ที่ 20 ราย
ทั้งนี้สิงคโปร์กำลังก้าวเข้าสู่สัปดาห์ที่ 6 ของการใช้มาตรการตัดวงจรเพื่อควบคุมยับยั้งการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยหลังจากที่่มีการติดเชื้อในชุมชนลดลง ส่งผลให้รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดบางประการลงตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา เช่น ให้ประชาชนสามารถไปออกกำลังนอกที่พักอาศัยได้ ไปฝังเข็มเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยได้ ส่วนภาคธุรกิจบางประเภทจะเริ่มกลับมาเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม เช่น ร้านตัดผมและร้านอาหารโฮมเมด ส่วนการทำกิจกรรมและการบริการอื่นๆ จะอนุญาตให้ค่อยๆ กลับมาดำเนินการได้ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนโรงเรียนจะเริ่มกลับมาเปิดเรียนเป็นกลุ่มย่อยในวันที่ 19 พฤษภาคม
ลอว์เรนซ์ หว่อง รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาเพื่อการพัฒนาแห่งชาติสิงคโปร์ กล่าวเตือนในระหว่างการแถลงข่าวในวันก่อนหน้าว่า ชาวสิงคโปร์ไม่ควรรีบเร่งพากันออกมาหลังจากที่ภาคธุรกิจจะเริ่มกลับมาเปิดให้บริการได้ในวันที่ 12 พฤษภาคม โดยชี้ว่าสิงคโปร์มีพัฒนาการที่ก้าวหน้าขึ้นเพราะการตัดวงจร ซึ่งสิงคโปร์ควรจะยึดปฏิบัติกันต่อไป
