สหรัฐออกมากล่าวหาจีนและรัสเซียว่าเพิ่มความร่วมมือที่จะเผยแพร่เรื่องราวที่ผิดๆ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา พร้อมทั้งระบุว่าจีนกำลังใช้วิธีโฆษณาชวนเชื่อแบบที่รัสเซียนิยมใช้มากขึ้นเรื่อยๆ
น.ส.ลีอา เกเบรียล ผู้ประสานงานศูนย์ปฏิสัมพันธ์โลกของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการโฆษณาชวนเชื่อของต่างชาติระบว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤตโควิด-19 เราประเมินว่ามีความร่วมมือในระดับหนึ่งระหว่างรัสเซียและจีนในมิติของการโฆษณาชวนเชื่อ แต่การแพร่ระบาดของที่เกิดขึ้นทำให้ความร่วมมือของทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เกเบรียลระบุว่า การมาบรรจบกันของทั้งสองประเทศนี้มาจากความพยายามของผู้ที่ต้องการที่จะกำหนดความเข้าใจของสาธารณชนต่อการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 เพื่อตอบสนองเป้าหมายของพวกเขาเอง
ก่อนหน้านี้ศูนย์พบว่ามีแอคเคาท์ในโซเชียลมีเดียจำนวนหลายพันแอคเคาท์ที่มีความเชื่อมโยงกับรัสเซียได้เผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดใหญ่ ซึ่งรวมถึงการกล่าวหาว่าไวรัสโคโรนาที่พบเป็นครั้งแรกในนครอู่ฮั่นของจีนสร้างขึ้นโดยสหรัฐ
อย่างไรก็ดีในความเป็นจริง สหรัฐและจีนดูจะทำสงครามน้ำลายและกล่าวหากันไปมาเกี่ยวกับต้นตอของไวรัสโคโรนา เพราะแม้หลายฝ่ายจะยืนยันเช่นกันว่าไวรัสโคโรนาไม่ได้มาจากการสร้างขึ้นโดยมนุษย์หรือการตกแต่งทางพันธุกรรม แต่รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ยังคงออกมากล่าวหาจีนอย่างต่อเนื่อง และอ้างว่าพวกเขามีหลักฐานชัดเจนว่าไวรัสดังกล่าวหลุดออกมาจากห้องทดลองของจีน แต่ไม่เคยนำหลักฐานใดๆ ที่จะพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างนั้นออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะแม้แต่น้อย
