เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์ กองกำลังรัฐอิสลาม(ไอเอส) ประกาศอ้างว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีกลางงานศพของผู้บัญชาการตำรวจอัฟกานิสถาน ในจังหวัดนันการ์ฮาร์ ทางตะวันออกของประเทศเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 24 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 68 ราย
โดยแถลงการณ์ของกลุ่มไอเอสที่เผยแพร่ในวันเดียวกันระบุว่า “นักรบญิฮาดอับดุลลาห์ อัล-อันซารี ได้โจมตีกองกำลังด้านความมั่นคงอัฟกันและกลุ่มติดอาวุธพันธมิตรที่นันการ์ฮาร์ ด้วยการจุดระเบิดเข็มขัดฆ่าตัวตาย จนทำให้พวกไม่ศรัทธา 100 คนถูกสังหารและได้รับบาดเจ็บ”
อย่างไรก็ตามกลุ่มไอเอสไม่ได้ถึงเอ่ยถึงเหตุการณ์ที่กลุ่มมือปืนปลอมตัวเป็นตำรวจบุกโจมตีโรงพยาบาลผดุงครรภ์ซึ่งดำเนินการโดยองค์กรเครือข่ายแพทย์ไร้พรมแดน ในกรุงคาบูล เมืองหลวงอัฟกานิสถานที่เกิดขึ้นในวันดียวกันแต่อย่างใด โดยเหตุโจมตีดังกล่าวเป็นผลให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต16 ราย ซึ่งมีทารกแรกเกิด 2 รายและพยาบาลรวมอยู่ด้วย
นายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป(อียู) ออกแถลงการณ์ประณามเหตุโจมตีอุกอาจโหดเหี้ยมทั้งสองเหตุการณ์ดังกล่าวในอัฟกานิสถาน โดยชี้ว่าเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย
“การพุ่งเป้าโจมตีและสังหารผู้เป็นแม่ ทารกแรกเกิดและพยาบาล ตลอดจนทำให้หลายครอบครัวต้องสูญเสียและทุกข์ใจ ถือเป็นการกระทำอันชั่วร้ายและไร้มนุษยธรรมที่น่าตกใจยิ่ง” หัวหน้าฝ่ายนโยบายอียูประณาม พร้อมเรียกร้องให้นำตัวผู้กระทำผิดมาสู่กระบวนการยุติธรรมและให้มีการหยุดยิงอย่างถาวรในประเทศอัฟกานิสถาน
ด้านกระทรวงกิจการภายในของอัฟกานิสถานได้เผยแพร่ภาพอันน่าเศร้าสลดใจจากเหตุโจมตีในโรงพยาบาลผดุงครรภ์ที่แสดงให้เห็นเด็กเล็ก 2 คนนอนเสียชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล และอีกภาพเป็นผู้หญิงรายหนึ่งนอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นขณะที่ยังกอดทารกน้อยของตนเองไว้แน่น
