เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ เรื่องที่คนไทยให้ความสนใจอย่างมากต่อการปลดเกาหลีใต้และจีนออกจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตฯชี้แจงดังนี้
ข้อแรก การปลดออกจากประเทศกลุ่มเสี่ยงไม่ได้หมายถึงการอนุญาตให้ประชาชนในประเทศนั้นเข้าประเทศ การห้ามเดินทางเข้าประเทศนั้นเป็นไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับประเทศกลุ่มเสี่ยงตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ และไม่มีเที่ยวบินลงจอดในประเทศไทยตามประกาศสถาบันการบินพลเรือน การปลดประเทศสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ออกจากประเทศกลุ่มเสี่ยงกับการอนุญาตให้คนเกาหลีเข้าประเทศไทยจึงไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ฉะนั้น การปลดสาธารณรัฐเกาหลีออกจากประเทศกลุ่มเสี่ยงมิได้ทำให้คนไทยมีความเสี่ยงมากขึ้น หรือทำให้ประเทศไทยต้องเสียสละทางด้านสาธารณสุขเพื่อความสัมพันธ์ทางการทูตแต่อย่างใด
ข้อสอง การควบคุมโรคของเกาหลีถูกพิสูจน์ด้วยตัวชี้วัดเชิงวัตถุวิสัยแล้ว ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ สาธารณรัฐเกาหลีตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมีผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่ถึง 909 คนต่อวัน แต่ด้วยความพยายามในการควบคุมโรคของรัฐบาลเกาหลี เช่น ความสามารถการตรวจหาเชื้อไวรัส การสอบสวนทางระบาดวิทยาที่เข้มข้น และความสามารถในการรักษาโรค ทำให้สถานการณ์กระเตื้องขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่ง ณ วันที่ 6 มีนาคม ที่ประเทศไทยได้กำหนดประเทศกลุ่มเสี่ยง สาธารณรัฐเกาหลีมียอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็นอันดับ 2 ของโลก แต่ปัจจุบัน ณ วันที่ 13 พฤษภาคม สาธารณรัฐเกาหลีมียอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็นอันดับที่ 40 ของโลก สะท้อนถึงแนวโน้มที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุใหม่ 2019 ที่ยังคงแพร่ระบาดไปทั่วโลก
เป็นความจริงที่สาธารณรัฐเกาหลีพบการแพร่ระบาดในพื้นที่สถานบันเทิง แต่องค์การอนามัยโรคได้ประเมินไว้ ณ วันที่ 11 พฤษภาคม ว่าสาธารณรัฐเกาหลีมีระบบที่สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดครั้งใหม่ได้ ร่วมกับรัฐบาลเกาหลีได้พยายามป้องกันการแพร่ระบาดในต่างประเทศที่ติดเชื้อจากสาธารณรัฐเกาหลีอย่างสุดความสามารถ ทำให้ไม่มีผู้ติดเชื้อจากสาธารณรัฐเกาหลีเข้าต่างประเทศ และในจำนวนคนไทย 7,000 กว่าคนที่กลับจากเกาหลีก็ไม่มีผู้เชื้อเลยแม้แต่คนเดียว
ข้อสาม สมควรแล้วที่ปรับเปลี่ยนประเทศกลุ่มเสี่ยงโดยสะท้อนสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ณ ปัจจุบัน มีประเทศกลุ่มเสี่ยง 9 ประเทศ รวมถึงสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งสถานการณ์ ณ วันที่กำหนดสาธารณรัฐเกาหลีเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยง (6 มีนาคม) กับ ณ ปัจจุบันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ถ้ายังคงรวมสาธารณรัฐเกาหลีอยู่ในรายชื่อประเทศกลุ่มเสี่ยงนั้นก็เหมือนตีตราความไม่ยุติธรรมต่อสาธารณรัฐเกาหลี
