หุ้นเอเชียร่วงระนาว-น้ำมันดีดขึ้น
เอเอฟพี รายงานการซื้อขายหุ้นในเอเชียเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ว่า ตลาดหุ้นทั่วเอเชียปรับลดลงตามแรงฉุดของตลาดสหรัฐอเมริกาที่พากันเทขายหุ้นกระหน่ำกันติดต่อเป็นวันที่สอง หลังจาก นายเจอโรม เพาเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาหรือเฟด ออกมาเตือนว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจสร้างความเสียหายระยะยาวให้กับเศรษฐกิจจากการล็อคดาวน์ และอาจสร้างความเสียหายถาวรให้กับระบบการผลิตของประเทศ ผสมผสานกันความวิตกว่าจะเกิดการระบาดใหญ่ระลอกสองที่มีเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
ในเวลาเดียวกันการที่ทางการสหรัฐอเมริกาออกมากกล่าวหา แฮคเกอร์จากประเทศจีนว่า พยายามเจาะระบบเพื่อฉกความลับการพัฒนาวัคซีนในสหรัฐอเมริกา ยิ่งทำให้ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศแหลมคมยิ่งขึ้น
ตลาดหุ้นหลักๆ ในเอเชียลดลงมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์กันถ้วนหน้า โดย ดัชนีนิกเกอิ 225 ที่โตเกียวลดลง 1.7 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 19,914.78 จุด, เซี่ยงไฮ้ คอมโพสิท ลดลง 1.0 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 2,870.34 จุด, หั่้งเส็ง ของฮ่องกง ปิดที่ 23,819.37 จุดลดลง 1.5 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ไทเป, ซิดนีย์, สิงคโปร์, และจาการ์ตา ลดลงมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนมุมไบ หายไปมากถึง 2 เปอร์เซ็นต์
ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังคงขยับขึ้นต่อเนื่องในการซื้อขายในเอเชีย หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (โอเปก) แสดงท่าทีจริงจังและเข้มงวดกับการลดกำลังการผลิต ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ซื้อขายกันในเอเชียปรับสูงขึ้น 1.5 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 29.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอ ก็ปรับขึ้น 1.5 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน อยู่ที่ 25.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
