นายทิม สเตนเซล ผู้อำนวยการแผนกอุปกรณ์ตรวจวินิจฉัยโรคและรังสีวิทยาขององค์การอาหารและยา (เอฟดีเอ) ของสหรัฐอเมริกา ยอมรับว่า อุปกรณ์ชุดตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งให้ผลได้ภายในไม่กี่นาที และถูกนำมาใช้ประจำอยู่ในทำเนียบขาวกับแจกจ่ายไปตามโรงพยาบาลทั่วไปแล้วมากกว่า 1.8 ล้านเครื่องนั้น กำลังอยู่ระหว่างการทบทวนประสิทธิภาพในการใช้งาน หลังจากที่มีผลการศึกษาทางวิชาการระบุว่า อุปกรณ์ดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนสูง
อุปกรณ์ดังกล่าวผลิตโดย แอบบอท แลบอราทอรี สหรัฐอเมริกาเรียกว่า “แอบบอท ไอดีนาว” กลายเป็นกรณีอื้อฉาวขึ้นมาในสหรัฐอเมริกาหลังจากมีทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ทดลองใช้อุปกรณ์ดังกล่าวแล้วพบว่า อาจมีความผิดพลาดในการตรวจหาเชื้อไม่พบระหว่าง 30-50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม นายสเตนซิล ระบุว่า อุปกรณ์ดังกล่าวยังจะคงใช้งานได้ต่อไป แต่ผู้ที่มีผลการทดสอบหาเชื้อเป็นลบ อาจจำเป็นต้องได้รับการตรวจยืนยันอีกครั้งจากอุปกรณ์ที่มีความละเอียดสูงต่อไปเท่านั้นเอง
ทั้งนี้ เอฟดีเอ ระบุว่า ผลวิจัยของมหาวิทยาลัยนิวยอร์กมีข้อจำกัดอยู่ในตัวหลายอย่าง อาทิ จำนวนตัวอย่างน้อยเกินไป, ผู้วิจัยมีความลำเอียงเชิงการออกแบบ, หรือ การทดสอบหาเชื้อที่ใช้ในการทดลองไม่ได้เป็นไปตามวิธีที่ผู้ผลิตกำหนด เป็นต้น
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ แอบบอท อ้างว่า อุปกรณ์ตรวจโควิดเร็วของตนมีความแม่นยำถึง 95 เปอร์เซ็นต์
