เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อินเดียมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมเพิ่มขึ้นแซงหน้าจีน ที่เป็นต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปแล้วในวันเดียวกันนี้ แม้มาตรการปิดเมืองทั่วประเทศที่อินเดียบังคับใช้อย่างเข้มงวดมาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาจะช่วยทำให้อินเดียมีอัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรนาลดลงก็ตาม
โดยกระทรวงสาธารณสุขอินเดียรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 156 ราย ส่งผลให้อินเดียมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 85,940 ราย อยู่อันดับที่ 11 ของโลก แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตของอินเดียยังคงอยู่ที่ 2,752 ราย ซึ่งถือว่าดีกว่าจีนที่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 4,633 ราย ขณะที่จีนมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 82,941 ราย อยู่อันดับ 13 ของโลก
เจ้าหน้าที่ทางการอินเดียชี้ว่าอัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในอินเดียที่มีอยู่ต่ำ อาจเป็นเพราะผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่ในประเทศเป็นผู้ที่ไม่แสดงอาการหรืออาจมีอาการอ่อนๆ และมาตรการปิดเมืองทั่วประเทศที่บังคับใช้มาตั้งแต่เนิ่นๆอาจช่วยให้อินเดียหลีกเลี่ยงหายนะครั้งใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดย 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ติดเชื้อมาจากรัฐมหาราษฎระ โดยมีเมืองมุมไบได้รับผลกระทบมากที่สุด ตามด้วยรัฐทมิฬนาฑู รัฐคุชราต และ กรุงนิวเดลี
ขณะเดียวกันมีเสียงเรียกร้องจากผู้นำรัฐบาลท้องถิ่น ภาคธุรกิจและกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ร้องขอให้นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ยอมให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดดำเนินการได้ หลังจากที่มีการคาดหมายว่ารัฐบาลนายโมดีจะขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการปิดเมืองที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ออกไปอีก ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศต่อไป