ยอดผู้เสียชีวิตเนื่องจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกในช่วงเช้าวันที่ 18 พฤษภาคมอยู่ที่ 316,502 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทั่วโลกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา 3,600 ราย ซึ่งถือว่าเป็นยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นไม่มากนักเมื่อเทียบกับในช่วงที่ผ่านมา
สหรัฐมีผู้เสียชีวิตในหนึ่งวันเพิ่มขึ้นเพียง 855 รายซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในหลายสัปดาห์ อย่างไรก็ดีตัวเลขรวมของผู้เสียชีวิตในสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 90,968 รายแล้วซึ่งเร็วกว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเคยคาดการณ์ไว้ว่าสหรัฐจะมีผู้เสียชีวิตแตะ 90,000 รายในต้นเดือนมิถุนายน
ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นใน 24 ชั่วโมงเป็นอันดับสองคือบราซิลที่ 485 ราย ตามด้วยฝรั่งเศสที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น 483 ราย เม็กซิโก 278 อังกฤษ 170 อินเดีย 154 อีตาลี 145เปรู 125 และแคนาดา 103
ขณะที่ประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รองจากสหรัฐ ยังคงเป็นอังกฤษที่ 34,636 อิตาลี 31,908 ฝรั่งเศส 28,108 สเปน 27,650 และบราซิล 16,118 ขณะที่สเปนมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเพียง 87 ราย ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าร้อยครั้งแรกใน 2 เดือน
ส่วนผู้ติดเชื้อทั่วโลกอยู่ที่ 4,797,832 คน โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 80,823 คนใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 18,838 คนทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 1,526,611 โดยรัสเซียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับสองของโลกที่ 281,752 คน หรือเพิ่มขึ้น 9,709 คนใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สเปน 277,719 อังกฤษ 243,695 บราซิล 241,080 อิตาลี 225,435 ฝรั่งเศส 179,569 เยอรมนี 176,651 ตุรกี 149,435 และอิหร่าน 120,198
ด้านผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายดีแล้วอยู่ที่ 1,855,066 คน
