สหราชอาณาจักรเพิ่มเงินสนับสนุนเร่งการวิจัยและผลิตวัคซีน โควิด-19

REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo

รัฐบาลสหราชอาณาจักรเพิ่มเงินอุดหนุน 84 ล้านปอนด์เพื่อนักวิจัยชั้นแนวหน้าที่กำลังเร่งวิจัยวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19

มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดและบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ได้ร่วมกันลงนามในข้อตกลงด้านสิทธิ์การผลิตและจำหน่ายวัคซีนทั่วโลก
แอสตร้าเซนเนก้าจะผลิตวัคซีนให้ได้มากที่สุด 30 ล้านชุดภายในสิ้นเดือนกันยายนเพื่อใช้ในสหราชอาณาจักร โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่จะผลิตวัคซีนให้ได้ทั้งหมด 100 ล้านชุด
รัฐบาลสหราชอาณาจักรเพิ่มเงินอุดหนุนก้อนใหม่จำนวน 84 ล้านปอนด์ให้กับนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดและอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน โดยเป็นงบสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด 65.5 ล้านปอนด์ และอีก 18.5 ล้านปอนด์สนับสนุนอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน ในขณะที่สถาบันเหล่านี้กำลังเร่งเครื่องทดลองวัคซีนให้ได้โดยเร็ว

นักวิจัยในสหราชอาณาจักรที่กำลังเร่งพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 จะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลก้อนใหม่อีก 84 ล้านปอนด์ หรือกว่า 3,000 ล้านบาท อล็อก ชาร์มา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุทธศาสตร์ธุรกิจ พลังงาน และอุตสาหกรรมของสหราชอาณาจักร กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา

การประกาศงบสนับสนุนนี้มีขึ้นในวันเดียวกับที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดตกลงมอบสิทธิ์การผลิตและจัดจำหน่ายวัคซีนในระดับโลกให้กับแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ซึ่งเป็นบริษัทยาของสหราชอาณาจักร หากออกซฟอร์ดประสบความสำเร็จในการทดลองวัคซีนดังกล่าว

Advertisement

ตามข้อตกลง หากการทดลองวัคซีนประสบความสำเร็จ แอสตร้าเซนเนก้าจะต้องผลิตวัคซีนให้ได้ทั้งหมด 100 ล้านชุด โดยขั้นแรกจะต้องผลิตให้ได้ถึง 30 ล้านชุดภายในเดือนกันยายนนี้เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนในสหราชอาณาจักรเป็นลำดับแรก

อล็อก ชาร์มา (Alok Sharma) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุทธศาสตร์ธุรกิจ พลังงาน และอุตสาหกรรมของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์ของเรายืนอยู่แถวหน้าในการผลิตวัคซีนโควิด-19 ข้อตกลงกับแอสตร้าเซนเนก้าแปลว่าหากวัคซีนของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดประสบความสำเร็จ ประชาชนในสหราชอาณาจักรจะมีโอกาสได้รับวัคซีนก่อนเป็นที่แรก ซึ่งจะช่วยชีวิตผู้คนได้อีกหลายพันคน

ข้อตกลงนี้กำหนดให้มีการผลิตวัคซีนทั้งหมด 100 ชุด ซึ่งหมายความว่า นอกจากจะช่วยเหลือประชาชนในสหราชอาณาจักรเองแล้ว เรายังจะสามารถกระจายวัคซีนไปช่วยเหลือประชาชนในประเทศกำลังพัฒนาได้ในราคาต่ำที่สุดที่อีกด้วย

Advertisement

สหราชอาณาจักรยังเดินหน้าต่อไปในฐานะผู้นำระดับนานาชาติด้านการพัฒนาวัคซีน และรัฐบาลก็กำลังสนับสนุนบรรดานักวิทยาศาสตร์อย่างเต็มที่เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการวิจัยโดยเร็วที่สุด

พาสคาล โซริโอต์ (Pascal Soriot) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอสตร้าเซนเนก้า กล่าวว่า แอสตร้าเซนเนก้าอยู่ในแนวหน้าของการรับมือกับไวรัสโควิด-19 และเราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดเพื่อช่วยผลิตวัคซีนนี้ให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมขอขอบคุณรัฐบาลสหราชอาณาจักรที่ตั้งใจสนับสนุนการผลิตวัคซีนอย่างจริงจัง และยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นความเป็นผู้นำ และความใจกว้างของรัฐบาลที่จะช่วยกระจายวัคซีนออกไปสู่ประเทศอื่น ๆ ด้วย บริษัทของเรากำลังพยายามอย่างหนักในการเจรจากับชาติอื่น ๆ และองค์กรระหว่างประเทศไปโดยคู่ขนาน เพื่อให้การจัดจำหน่ายวัคซีนเป็นไปอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมที่สุดทั่วโลก

ศาสตราจารย์ เซอร์ จอห์น เบลล์ จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (Professor Sir John Bell, Regius Professor of Medicine) กล่าวว่า

มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดภาคภูมิใจอย่างยิ่งในนักวิทยาศาสตร์ของเราที่ประจำสถาบันเจนเนอร์ (Jenner Institute) และออกซฟอร์ดวัคซีนกรุ๊ป (Oxford Vaccine Group) ซึ่งต่างทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อค้นหาและพัฒนาวัคซีนนี้ให้ได้อย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์ วันนี้เรามีหุ้นส่วนเป็นแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นบริษัทที่เหมาะสมที่สุดที่จะช่วยเราประเมิน ผลิตและจัดส่งวัคซีนให้แก่ประชาชนชาวอังกฤษ รวมทั้งผู้คนในที่อื่น ๆ ทั่วโลก ทั้งเราและแอสตร้าเซนเนก้าต่างมีความมุ่งมั่นเช่นเดียวกันในการเปิดให้ทั่วโลกเข้าถึงวัคซีนให้ได้อย่างแท้จริงเพื่อหยุดยั้งโรคระบาดนี้

ศาสตราจารย์ โรบิน แชทท็อก (Professor Robin Shattock) จากอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน กล่าวว่า เงินทุนนี้จะช่วยให้เราทำงานได้เร็วขึ้นอย่างมากในการพิสูจน์ประสิทธิภาพของวัคซีน และช่วยให้ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสามารถได้รับวัคซีนเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การสนับสนุนจากรัฐบาลเช่นนี้ช่วยให้เราเดินหน้าไปได้รวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

สหราชอาณาจักรอยู่ในแถวหน้าของความพยายามระดับนานาชาติในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ประกาศจะมอบเงิน 250 ล้านปอนด์ (ราว 1 หมื่นล้านบาท) ให้กับกลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (Coalition for Epidemic Preparedness Innovations หรือ CEPI) ซึ่งนับเป็นจำนวนเงินที่มากที่สุดจากบรรดาทุกประเทศ เงินบริจาคนี้เป็นส่วนหนึ่งของเงิน 388 ล้านปอนด์ที่สหราชอาณาจักรสัญญาจะใช้สนับสนุนความพยายามของโลกในการพัฒนาวัคซีน การตรวจเชื้อ และการรักษา นอกจากนี้ ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ สหราชอาณาจักรจะเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับโลกเพื่อระดมทุนสนับสนุนองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีน (The Vaccine Alliance หรือ Gavi) อีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image