ผลวิจัยยัน “เรมเดซิเวียร์” ต้านโควิดได้ผล ช่วยผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น

แฟ้มภาพรอยเตอร์

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผลการศึกษาวิจัยของสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติ (เอ็นไอเอไอดี) ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมชี้ว่า ยาเรมเดซิเวียร์ ซึ่งเป็นยาต้านไวรัส สามารถย่นเวลาในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้หายป่วยได้เร็วขึ้น ซึ่งมีขึ้นหลังจาก 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ นายแอนโธนี เฟาชี ผู้อำนวยการเอ็นไอเอไอดี ที่ปรึกษาฝ่ายสาธารณสุขประจำทำเนียบขาวในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 กล่าวว่า หลักฐานเบื้องต้นบ่งชี้ว่ายาเรมเดซิเวียร์ ให้ผลอย่างชัดเจนและมีประสิทธิผลดีในการทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

โดยรายงานผลการศึกษานี้ที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ระบุว่า ยาเรมเดซิเวียร์ ที่ใช้ฉีดเข้าเส้นเลือดใหญ่ทุกวันเป็นเวลา 10 วัน ช่วยทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มีอัตราการฟื้นตัวเร็วขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการให้ยาหลอก (placebo) ในการทดลองทางคลินิกในคนไข้กว่าพันคนใน 10 ประเทศ

ด้านสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของเอ็นไอเอไอดี แถลงทางเว็บไซต์ว่า ทีมสอบสวนพบว่ายาเรมเดซิเวียร์ได้ผลดีในผู้ป่วยที่มีอาการป่วยรุนแรงถึงขั้นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

อย่างไรก็ตามผู้เขียนรายงานการวิจัยครั้งนี้ระบุว่า ยาต้านไวรัสตัวนี้ไม่ได้ช่วยป้องกันผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากการเสียชีวิตได้ โดยอัตราการเสียชีวิตยังมีอยู่สูงแม้จะมีการใช้ยาเรมเดซิเวียร์ในการรักษาด้วยก็ตาม ซึ่งเป็นสิ่งแสดงชัดเจนว่าการรักษาด้วยยาต้านไวรัสนี้เพียงอย่างเดียว อาจไม่ได้ประสิทธิผลเพียงพอ ทั้งนี้ราว 7.1 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่ได้รับยาเรมเดซิเวียร์ในกลุ่มทดลอง เสียชีวิตลงภายใน 14 วัน เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการให้ยาหลอก ที่มีอัตราการเสียชีวิต 11.9 เปอร์เซ็นต์

Advertisement

ทั้งนี้รัฐบาลสหรัฐได้อนุญาตให้ใช้ตัวยาเรมเดซิเวียร์ ในการรักษาเป็นกรณีฉุกเฉิน ในโรงพยาบาลต่างๆในประเทศสหรัฐตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนที่ญี่ปุ่นจะดำเนินการในทำนองเดียวกันตามมา ส่วนชาติยุโรปกำลังพิจารณาที่จะในเรื่องนี้อยู่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image