เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงทางโทรทัศน์ ยกเลิกการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในทั่วประเทศแล้ว หลังจากญี่ปุ่นแนวโน้มผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในประเทศลดลง อย่างไรก็ตามนายกรัฐญี่ปุ่นยังร้องขอให้ประชาชนปรับตัวกับการใช้ชีวิตในวิถีใหม่และให้หลีกเลี่ยง “3 ซี” คือ การหลีกเลี่ยงอยู่ในสถานที่ปิด สถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก และ การติดต่อสัมผัสใกล้ชิด เพื่อป้องกันการเกิดการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19
“หากเราลดการ์ดป้องกันลง การติดเชื้อก็จะแพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็วมากได้ เราจำเป็นต้องระมัดระวัง เราต้องสร้างวิถีการดำเนินชีวิตใหม่ และจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีคิด” นายอาเบะกล่าว
ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในชาติยุโรป สหรัฐอเมริกา รัสเซียและบราซิลที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ญี่ปุ่นถือว่ามีสถานการณ์ยังไม่เลวร้ายหนักมากดังหลายชาติที่ว่ามา โดยญี่ปุ่นยังมีผู้ติดเชื้อสะสมที่ 16,581 ราย และมีผู้เสียชีวิตที่ 830 ราย
รัฐบาลนายอาเบะได้เริ่มประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงโตเกียวและอีก 6 จังหวัดเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศพุ่งสูงขึ้นมาก ก่อนที่จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครอบคลุมทั่วประเทศในไม่กี่วันถัดมา
แต่หลังจากญี่ปุ่นมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศลดลงเหลือวันละหลักสิบจากวันที่มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันเดียวราว 700 ราย ทำให้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วญี่ปุ่นได้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ส่วนใหญ่ทั่วประเทศ คงเหลือเพียงฮอกไกโด กรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดหนักของไวรัสโควิด-19 ก่อนหน้านี้
