โควิด-19 ทำ ยูโรโซน จีดีพี ติดลบ 8-12 เปอร์เซ็นต์
เอเอฟพีรายงานว่า นาง คริสตีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางแห่งยุโรป (อีซีบี) ยืนยันในการให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อ 27 พฤษภาคมนี้ยืนยันว่า ไม่ได้วิตกว่าวิกฤตโควิดอาจส่งผลให้เกิดการแตกแยกขึ้นในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรร่วมกันหรือกลุ่มยูโรโซน แม้ว่าสถาบันวิชาการจากเยอรมนีจะชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นก็ตาม
ในขณะที่ยอมรับว่า แต่ละประเทศในยูโรโซน 27 ประเทศได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนนี้มากน้อยแตกต่างกันออกไป แต่ประธานอีซีบี ยืนยันว่า ทุกประเทศทั่วโลกต้องก่อหนี้เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตเหมือนๆ กัน เพราะเป็นสิ่งถูกต้องที่ควรทำ นอกจากนั้นระดับอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงต่ำ จะทำให้ต้นทุนชำระหนี้เพื่อการนี้ต่ำอย่างมาก ดังนั้นการก่อหนี้จึงไม่สำคัญเท่ากับการนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายอย่างถูกต้องและมีความหมาย ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อพลิกโฉมเศรษฐกิจของยูโรโซนไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เพิ่มผลิตภาพและต่อต้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก
นางลาการ์ดยังคาดการว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนทั้งหมดในปีนี้ จะติดลบมากถึงระหว่าง 8-12 เปอร์เซ็นต์ โดยย้ำว่าการประเมินเมื่อเดือนเมษายนของอีซีบีที่ -4 เปอร์เซ็นต์นั้นล้าสมัยไปแล้ว
วันเดียวกัน นางอิซาเบล ชนาเบล กรรมการบริหารอีซีบี เปิดเผยกับไฟแนนเชียลไทมส์ ระบุว่า อีซีบีเตรียมพร้อมสำหรับขยายวงเงินซื้อพันธบัตรเพื่อเสริมสภาพคล่องออกไปจาก 750,000 ล้านยูโรเป็นมากกว่า 1 ล้านล้านยูโร เพื่อรองรับผลกระทบในระบบการเงินของยูโรโซน
