เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทีมเฉพาะกิจตอบสนองสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของฟิลิปปินส์ ได้เสนอให้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศ ที่บังคับใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดที่สุดและนานที่สุดแห่งหนึ่งในโลกแล้ว หลังจากกรุงมะนิลาตกอยู่ภายใต้การล็อกดาวน์มานานเกือบ 11 สัปดาห์ และในสัปดาห์นี้กำลังจะแซงหน้าเมืองอู่ฮั่นของจีนที่เป็นต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำการปิดเมืองอย่างเด็ดขาดเป็นเวลา 76 วัน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
นายเอดูอาร์โด อาโน รัฐมนตรีกิจการภายในประเทศของฟิลิปปินส์ คาดหมายว่าประธานาธิบดีดูแตร์เตจะเห็นชอบกับข้อเสนอนี้ โดยผู้นำฟิลิปปินส์มีกำหนดจะแถลงต่อประชาชนถึงการรับมือต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ผ่านทางโทรทัศน์ในวันเดียวกันนี้
รอยเตอร์รายงานว่า หากข้อเสนอดังกล่าวผ่านความเห็นชอบ ทางการฟิลิปปินส์จะเริ่มทยอยผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 1-15 มิถุนายน โดยที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยังสามารถคงเข้มงวดในชุมชนที่ยังมีความเสี่ยงภัยสูงต่อไปได้ ส่วนมาตรการที่จะมีการผ่อนปรนนั้นมีอาทิ การอนุญาตให้ประชาชนรวมตัวกันได้มากถึง 10 คน สถานที่ทำงาน ร้านค้า และระบบขนส่งสาธารณะบางส่วนจะเริ่มกลับมาเปิดให้บริการได้ และจะอนุญาตให้ประชาชนเคลื่อนย้ายเข้าออกกรุงมะนิลาได้ ส่วนโรงเรียน มหาวิทยาลัย สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารที่นั่งรับประทานในร้านจะยังคงปิดต่อไป ขณะที่คำสั่งให้อยู่บ้านจะยังคงให้มีผลอยู่ต่อผู้สูงอายุและเด็ก
การเสนอผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ในกรุงมะนิลามีขึ้นในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในแต่ละวันของสัปดาห์นี้ในฟิลิปปินส์ยังมีสูงที่สุดนับจากวันที่ 6 เมษายนเป็นต้นมา โดยจำนวนผู้ป่วยยืนยันในช่วง 6 วันที่ผ่านมามีสัดส่วนเป็นเกือบ 11 เปอร์เซ็นต์ของยอดผู้ติดเชื้อสะสมในฟิลิปปินส์ขณะนี้ที่อยู่ที่ 15,049 ราย และมีผู้เสียชีวิต 904 ราย
อย่างไรก็ตามการให้ผ่อนคลายการล็อกดาวน์มีขึ้นภายใต้ความหวังว่าเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์จะกลับมาขับเคลื่อนได้ หลังจากไตรมาสแรกเศรษฐกิจฟิลิปปินส์หดตัวไป 0.2% และคาดว่าจะยิ่งเลวร้ายในไตรมาส 2
